tt ads

25 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันคริสต์มาส เป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองสมโภชพระเยซู เป็นวันสำคัญของผู้นับถือคริสตศาสนา และยังเป็นเทศกาลแห่งความสุขของคนทั่วโลกอีกด้วย แต่เมื่อถึงวันคริสต์มาส อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ลุงเคราขาวอ้วนพุงพลุ้ยในชุดสีแดง ลุงผู้ใจดี เป็นที่รักของทุกคน โดยเฉพาะเด็กๆ แน่นอนว่าจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก “ซานตาคลอส” หรือ ลุงซานต้าของเด็กๆนั่นเอง 

 

ซานตาคลอสคือใคร? 

ซานตาคลอส ที่จริงแล้วไม่ใช่ชายแก่ที่สวมชุดแดง แต่เป็นเศรษฐีใจบุญ และยังเป็นสังฆราชเมืองไมรา แห่งอนาโตเลีย ซึ่งผู้คนมากมายต่างให้ความเคารพรัก นามว่า “เซนต์ นิโคลัส” 

 

เมื่อครั้งที่ (เซนต์) นิโคลัส ยังอาศัยอยู่ทางฝั่งทะเลตอนใต้ของตุรกีกับครอบครัว ต้องอยู่อย่างหวาดกลัวตลอดเวลา เนื่องจากสมัยนั้นทางโรมันที่ครอบครองแผ่นดิน ยังมีการกดขี่และกวาดล้างพวกนับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาบิดามารดาของนิโคลัสเสียชีวิตลง ก็ได้ทิ้งสมบัติให้กับเขามากมาย และด้วยหนุ่มนิโคลัสเป็นคนที่ใจดี รู้สึกสงสารบ้านเด็กหญิงที่ยากจน จึงได้นำถุงเงินไปหย่อนลงทางปล่องไฟ แต่บังเอิญถุงเงินได้ไปตกในถุงเท้าที่แขวนหน้าเตาผิง เมื่อข่าวเด็กหญิงได้พบกับเงินอยู่ในถุงเท้าที่แขวนไว้หน้าเตาผิงสะพัดออกไป ทำให้บ้านหลังอื่นๆนำถุงเท้าแขวนไว้หน้าเตาผิง เผื่อจะได้ของขวัญในวันคริสต์มาสเช่นเดียวกับครอบครัวเด็กหญิงยากจน 

 

ต่อมา นิโคลัส ได้เข้าเป็นนักบวชคริสเตียน อุทิศตนให้กับการเผยแผ่ศาสนา จนได้เลื่อนเป็น บิชอป แล้วได้ย้ายไปเป็นสังฆราชที่เมืองไมรา ซึ่งช่วงเวลานั้น เซนต์ นิโคลัส สามารถทำการประกอบศาสนกิจได้อย่างเต็มที่ เพราะโรมมีการเปลี่ยนการปกครอง และจักรพรรดิองค์ใหม่สนับสนุนศาสนาคริสต์ เซนต์ นิโคลัส ได้อุทิศตนและทำการเผยแผ่ศาสนาคริสต์จนมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่ว ก่อนจะมรภาพวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ.343 และผู้คนที่ให้ความเคารพและศรัทธา เซนต์ นิโคลัส ได้ร่วมกันสร้างโบสถ์เพื่อเก็บกระดูกท่านไว้ที่เมืองไมรา และได้ปรากฏเรื่องมหัศจรรย์ขึ้น มีน้ำมนต์ไหลออกมาจากกระดูกของท่าน เรียกว่า “มานนา” จนเป็นที่ฮือฮาและสร้างชื่อเสียงให้กับสถานที่แห่งนี้ 

 

 

กระทั่งต่อมา ชาวเมืองบารี ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆในอิตาลี ได้ว่าจ้างนักโจรกรรมเพื่อไปทำการขโมยกระดูกของ เซนต์ นิโคลัส ที่ในโบสถ์เมืองไมรา นำกลับมาไว้ดึงดูดผู้แสวงบุญและนักท่องเที่ยวมายังเมืองบารี เมื่อทำการโจรกรรมสำเร็จ ชาวบารีก็ได้สร้างโบสถ์เพื่อบรรจุกระดูกนักบุญแห่งเมืองไมรา และน้ำมนต์ก็ยังคงไหลออกมาจากกระดูก ได้มีนักบุญนำน้ำมนต์นี้ไปรักษาโรคแล้วได้ผลชะงัด สร้างชื่อเสียงให้กับสถานที่แห่งนี้ จนผู้คนหลั่งไหลมาเยี่ยมชมกันอย่างล้นหลาม 

ต่อมาในศตวรรษที่ 12 ชาวเมืองฝรั่งเศสได้กำหนดให้วันมรภาพของ เซนต์นิโคลัส ที่ตรงกับวันที่ 6 ธันวาคม เป็น “วันเซนต์นิโคลัส” และได้นำอาหารหรือขนมต่างๆ ใส่ลงในถุงเท้าแล้วนำไปแขวนไว้หน้าบ้านคนยากไร้ เพื่อเป็นของขวัญซานตาคลอส ทำตามแบบอย่างเซนต์นิโคลัส จนกระทั่งเป็นประเพณีที่แพร่ไปทั่วยุโรปและอเมริกา และได้มีการผนวกวันเซนต์นิโคลัสเข้าด้วยกันกับวันคริสต์มาสจนมาถึงปัจจุบัน 

 

ทำไมซานตาคลอสใส่ชุดสีแดง?

ก่อนจะมาเป็นภาพซานตาคลอสหนวดยาว หุ่นหมี สวมชุดแดง ที่เรารู้จักและจดจำเป็นภาพสัญลักษณ์มาจนถึงปัจจุบันนี้ จะเป็นภาพชายร่างผอมสูงในชุดเสื้อคลุมบิชอปสีแทน หรือบางครั้งก็สวมเสื้อสีเขียว แต่ผู้ที่ทำการเปลี่ยนลุคให้ภาพซานตาคลอสแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง คือ “โธมัส นาสต์” 

 

นักวาดการ์ตูน นามว่า โธมัส นาสต์ (Thomas Nast) ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์จากนักบุญชุดเขียว ให้เป็นชายหุ่นหมี หน้าตาใจดี สวมผ้าขนสัตว์และหมวกสีแดง มียานพาหนะคือ “เลื่อน” และขับเคลื่อนโดยกวางเรนเดียร์ลาก ซึ่งอาศัยอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ และจะปรากฏตัวในวันคริสต์มาส เพื่อนำของขวัญมาให้เด็กๆที่แขวนถุงเท้าไว้ ด้วยการปีนลงทางปล่องไฟของบ้านนั่นเอง และโฉมใหม่ของซานตาคลอสก็ได้ปรากฏครั้งแรกบนนิตยสาร Harper’s Weekly ปี 1862 

 

ลุคใหม่ของซานตาคลอสชุดแดงเป็นที่ถูกใจบริษัท โคคา-โคลา ด้วยสีแดงของชุดไปตรงกับสีของแบรนด์พอดี จึงเลือกลุงซานตาหุ่นหมีในชุดแดงเป็นตัวแทนแคมเปญคริสต์มาส และได้มีการตีพิมพ์ในนิตยสาร The Saturday Evening Post ในปี 1920 ต่อมาในปี 1930 เฟรดเดอริค ไมเซน (Frederic Mizen) วาดรูปซานตาคลอสยกขวดโค้กขึ้นดื่มโดยมีเด็กๆยืนห้อมล้อม และใช้รูปนี้ทำการโปรโมทในเทศกาลคริสต์มาส

 

Santa Claus, beautiful Christmas toy

 

โคคา-โคล่า ต้องการเพิ่มความชัดเจนของภาพซานตาคลอสและโค้กมากขึ้น จึงว่าจ้างเอเจนซี่โฆษณา D’Arcy Advertising ในปี 1931 โดยมีจิตรกรจากรัฐมิชิแกน ชื่อ แฮดดัน ซันด์บลอม (Haddon Sundblom) เป็นผู้ปรับโฉมลุงซานต้า ให้เป็นชายสูงวัยร่างใหญ่ในชุดแดง ที่ดูร่าเริง และมีเสียงหัวเราะแห่งความสุขตลอดเวลา 

 

แฮดดัน ซันด์บลอม ได้วาดภาพซานตา หรือซานตาคลอส เพื่อการโฆษณายาวนานกว่า 30 ปี ทำให้ภาพจำแซนต้าคลอสของทุกคน คือ ชายสูงวัย ร่างใหญ่ หน้าตาใจดี มาจนถึงยุคปัจจุบัน  

 

แต่ไม่ว่าซานตาคลอสใส่ชุดสีอะไร จะเป็นนักบุญสูงโปร่งในชุดบิชอปสีแทน หรือจะเป็นชายแก่หุ่นหมีสวมชุดแดง ก็เป็นลุงซานต้าผู้ใจดีที่ใครๆก็รู้จัก และเด็กๆทั่วโลกก็ปรารถนาจะพบในวันคริสต์มาสเป็นที่สุด

 

ซานตาคลอสอยู่ที่ไหน? 

 

หลายๆคนรู้มาว่า ถิ่นกำเนิดของซานตาคลอสคือ ประเทศฟินแลนด์ และมีหมู่บ้านซานตาคลอส ที่ตั้งอยู่ในเมืองโรวาเนียมิ ทางตอนเหนือของประเทศฟินแลนด์ ทำไมถึงกล่าวว่าที่แห่งนี้ เป็นถิ่นกำเนิดซานตาคลอส และมีหมู่บ้านซาตาคลอส ในเมื่อ เซนต์นิโคลัส ผู้เป็นซานตาตัวจริง มีถิ่นฐานอยู่ที่ตุรกี ?

 

สาเหตุที่มีหมู่บ้านซานตาคลอสใน โรวาเนียมิ เริ่มจากที่ เมื่อปีค.ศ. 1927 นาย มาร์คัส โรว์ติโอ นักจัดรายการวิทยุชาวฟินแลนด์ ได้พูดออกอากาศว่าโรงงานผลิตของเล่นของซานตาคลอส ตั้งอยู่ในเขตแลปแลนด์ ด้วยประโยคนั้นเอง ทำให้มีคนไปตีความและเข้าใจว่าบ้านของซานต้าอยู่ที่แลปแลนด์ ต่อมาในปี 1984 การท่องเที่ยวของฟินแลนด์ ได้มีไอเดียและจัดการสร้างหมู่บ้านซานตาคลอสขึ้นในเมืองโรวาเนียมิ เพื่อส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเมื่อหมู่บ้านซานต้าดำเนินการเสร็จ มีผู้คนให้ความสนใจและเดินทางเพื่อเยี่ยมชมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 

 

 

แต่ถ้าจะมีคำถามว่า แล้วซานตาคลอสตัวจริงคือใครกันแน่? แน่นอนว่าก็ต้องเป็น เซนต์ นิโคลัส นักบุญผู้อุทิศตนให้กับคริสตศาสนา เพียงแต่อาจมีภาพลักษณ์ที่ถูกปรับแต่งใหม่ จนคนรุ่นหลังๆรู้แต่ภาพชายแก่หนวดขาว ร่างใหญ่ พุงพลุ้ย ใจดี อาศัยอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ มีเลื่อนเป็นพาหนะ และกวางเรนเดียร์เป็นสารถีคู่ใจ คอยมาแจกของขวัญให้ผู้คนในวันคริสต์มาส พร้อมเสียงห้วเราะแห่งความสุข โฮะโฮะโฮะ! Mary Christmas สุขสันต์วันคริสต์มาสทุกคน 

 

 

 

tt ads