tt ads

ตั้งแต่ฝุ่น PM2.5 จนมาถึงโควิด-19 ต้องยอมรับว่าหลายๆคนเริ่มหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและป้องกันตัวเองเท่าที่จะทำได้มากที่สุด โดยการดูแลสุขภาพนั้นมีทั้งเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย และในเรื่องของอาหารเสริม ซึ่งคนให้ความสนใจกันมากที่สุดจะเป็น “วิตามินซี” 

 

วิตามินซีคือวิตามินที่ละลายน้ำได้และร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ จะต้องรับประทานเข้าไป โดยพบมากในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น อะเซโรล่า ส้ม ฝรั่ง มะนาว สัปปะรด ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มะเขือเทศ ผักใบเขียว พริก พริกหวาน มันฝรั่ง มันเทศ ถั่วฝักเขียว ดอกกะหล่ำ บลอกโคลี่ ผักปวยเล้ง เป็นต้น

 

บางคนเข้าใจว่าวิตามินซีแก้หวัด ซึ่งไม่ใช่!! เพราะวิตซีไม่ใช่ยา แต่เพียงช่วยลดอาการรุนแรงและระยะเวลาการเป็นหวัดให้หายเร็วขึ้น เพราะผู้ที่ทานวิตามินซีอยู่เสมอจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยระบบการทำงานของเม็ดเลือดขาวให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพดีขึ้น แต่สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายและทานวิตามินซีควบคู่เป็นประจำจะยิ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นหวัดได้มากกว่าคนที่ทานวิตามินซีอย่างเดียว 

 

วิตามินซีช่วยอะไร

 

Vitamin C หรือ Ascorbic Acid คือ กรดแอสคอร์บิก เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เพราะช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันความเสียหายของเซลล์ ช่วยสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพเม็ดเลือดขาวในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย เสริมระบบภูมิคุ้มกัน มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยซ่อมแซมในส่วนที่สึกหรอ  ช่วยในกระบวนการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งในกระดูก กระดูกอ่อน กล้ามเนื้อ และหลอดเลือด ช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้น ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดี ผู้ที่ขาดวิตามินซีก็ส่งผลให้ขาดธาตุเหล็กไปด้วย อาจมีเลือดออกตามไรฟัน อ่อนเพลีย เป็นหวัดและติดเชื้อได้ง่ายแต่หายช้า เลือดกำเดาไหลบ่อย ปวดตามข้อ มีผื่นแดง 

 

กลไกที่วิตามินซีมีส่วนสำคัญในการเสริมภูมิคุ้มกันอย่างแรกเลยคือ วิตามินซีช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวลิมโพไซต์และฟาโกไซต์ เพิ่มประสิทธิภาพให้เม็ดเลือดขาวมากขึ้น อย่างที่สองคือวิตามินซีช่วยปกป้องการทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว เพราะเมื่อติดเชื้ออาจเกิดการอักเสบได้เนื่องจากมีการต่อสู้ระหว่างเม็ดเลือดขาวและกับเชื้อโรค ทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่ถูกปล่อยออกมาเพื่อทำลายเม็ดเลือดขาว วิตามินซีจะช่วยกำจัดอนุมูลอิสระไม่ให้ไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว 

ทานวิตามินซีควรกินตอนไหนดีที่สุด 

 

สำหรับคำถามที่ว่าวิตามินซีควรกินตอนไหน หากต้องการประโยชน์วิตามินซีดีสุดต่อร่างกายคือการรับประทานหลังอาหารเช้า เนื่องจากร่างกายของเราจะมีอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นได้ตลอดเวลา จากกิจกรรมหรือการทำงานระหว่างวัน อีกทั้งมีการดื่มน้ำเรื่อยๆ ทำให้มีการขับวิตามินออกทางปัสสาวะมากกว่าตอนกลางคืนที่ปัสสาวะจะค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะเป็นเวลานาน เสี่ยงต่อการเกิดโรคนิ่วได้ 

และควรทานวิตามินซีหลังอาหารหรือระหว่างการทานอาหาร เพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ดี และลดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร เพราะวิตามินซีมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ จึงไม่แนะนำให้ทานก่อนอาหารหรือตอนท้องว่าง ผู้มีปัญหาเรื่องโรคกระเพาะควรปรึกษาแพทย์ และในการรับประทานวิตามินขนาดสูงก็เช่นกัน 

 

นายแพทย์ ฆนัท ครุฑกูล แพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยว่า การออกกำลังกายและทานวิตามินซีประจำ เพื่อให้ร่างกายมีความแข็งแรงและสร้างภูมิต้านทานภูมิแพ้ ไข้หวัดและโควิด-19 ยิ่งทำให้หลายคนสนใจและหาซื้อวิตามินซีกันเพิ่มมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับยอดซื้อในหลายๆปีที่ผ่านมาก่อนที่ไวรัสโควิดจะระบาด

 

วิตามินซีในท้องตลาดที่หาซื้อได้ทั่วไปจะพบว่ามี วิตามินซีธรรมชาติ(Natural vitamin C) ที่ได้จากผักผลไม้  วิตามินซีสังเคราะห์ (Synthetic vitamin C) ทั้งแบบวิตซีเม็ด วิตามินซีแบบอม วิตามินซีแบบเคี้ยว วิตามินซีน้ำ วิตามินซีผิวใส แบบที่มีไบโอฟลาโวนอยด์ที่ช่วยเพิ่มในการดูดซึม วิตามินซี Ascorbic Acid  วิตามินซี citrus ที่เป็นวิตามินซีจากพืชตระกูลส้ม และวิตามินซี acerola cherry 

 

ทานวิตามินซีวันละเท่าไรดีที่สุด 

 

จากการศึกษาวิจัยจากสถาบันทางการแพทย์ได้พบว่า การที่เราทานวิตามินซี 500 มิลลิกรัม วิตามินซีจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ 70 ไมโครโมล ถ้าหากทานวิตามิน ซี 1000 มิลลิกรัม ร่างกายจะดูดซึมได้ 75 ไมโครโมล และถ้าเราทานขนาด 2000 มิลลิกรัม ร่างกายจะรับวิตามินซีได้ประมาณ 78 ไมโครโมล ซึ่งจะเห็นว่าแทบไม่แตกต่างกันมากนัก ฉะนั้นทานวิตามินซี 500 mg ก็พอเหมาะสม

 

แต่เนื่องจากปัจจุบันมีทั้งฝุ่น มลภาวะ อีกทั้งCOVID-19 ที่กำลังระบาด ร่างกายจึงต้องการเสริมภูมิคุ้มกันที่มากขึ้น การทานวิตามินซีในปริมาณ1000-2000 มิลลิกรัม จะดีกว่าสำหรับในสถานการณ์ ณ ตอนนี้ และถ้าเทียบราคาวิตามินซีระหว่าง 500 mgและวิตามินซี 1000 mg ราคาก็ต่างกันไม่มากนัก โดยอาจแบ่งเป็นการทาน เช้า-เย็น 

วิตามินซีแบบไหนดีที่สุด

 

จะเลือกทานแบบไหนก็ได้ที่สะดวก ไม่ว่าจะเป็นวิตามินแคปซูล วิตามินซีเด็ก         เม็ดฟู่วิตามินซี ฯลฯ วิตามินซีที่ดีที่สุดคือวิตามินที่ผลิตจากวัตถุดิบมีคุณภาพ ร่างกายก็ได้ประโยชน์เช่นกัน แต่ข้อดีข้อเสียของวิตามินแต่ละชนิดก็แตกต่างกันไป

 

  1. วิตามินซีอัดเม็ด ส่วนใหญ่จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่จึงอาจมีปัญหาในการกลืนบ้างสำหรับบางคน เมื่อทานแล้วต้องดื่มน้ำตามมากๆ เพราะวิตซีชนิดนี้ต้องใช้น้ำช่วยในการแตกตัวมากกว่าชนิดอื่น 

 

  1. วิตามินซีเม็ดอม เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องกลืนเม็ดยายากหรือไม่ชอบการกลืนแบบเม็ด วิตามินซีอมเล่นจะช่วยให้ทานง่ายขึ้น จะมีวิตามินซีปริมาณตั้งแต่ 25-500 มิลลิกรัม แต่การอมวิตามินซีบ่อยๆ ฤทธิ์กรดจากวิตามินซีจะกัดกร่อนสารเคลือบฟันให้บางลงได้ จึงควรทานแต่พอดี 

 

  1. วิตามินซีแคปซูล มีทั้งแบบแคปซูลแข็งและแคปซูลนิ่ม มีปริมาณวิตามินซี 500 มิลลิกรัม ทานและกลืนง่าย แต่มีราคาสูงกว่าแบบเม็ด

 

  1. วิตามินซีแบบเคี้ยวหรือเยลลี่วิตามิน ส่วนใหญ่จะมีปริมาณวิตามินซีประมาณ 30 มิลลิกรัม มีการแต่งสีและรสชาติค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะน้ำตาล เพื่อให้ทานง่ายและมีรสที่ชวนทาน เหมาะเป็นวิตามินซีสำหรับเด็ก หรือผู้ที่ทานแบบเม็ดใหญ่ลำบาก แต่ควรเลือกซื้อแบบที่ไม่เติมสารกันบูดและมีปริมาณวิตามินซีที่เพียงพอต่อร่างกายในแต่ละวัน

 

  1. วิตามินซีเม็ดฟู่ เป็นวิตามินซีเม็ดขนาดใหญ่ โดยวิธีการทานคือนำเม็ดฟู่ไปละลายน้ำจนหมดฟองแล้วจึงดื่ม เพราะฟองอาจทำให้เกิดการแน่นท้องได้ มักจะมีปริมาณ 500-1000 มิลลิกรัม เหมาะกับผู้ที่กลืนยาเม็ดยาก ผู้ที่มีปัญหาการดูดซึมยาก เช่น ผู้สูงอายุ 

 

  1. วิตามินซีแบบฉีด จะมีปริมาณวิตามินซี 500 มิลลิกรัม แต่ฉีดวิตามินซีแบบนี้จะต้องทำการปรึกษาแพทย์ก่อน โดยวิตามินซีแบบสารละลายจะออกฤทธิ์เร็ว ร่างกายสามารถนำไปใช้ซ่อมแซมร่างกายได้เลย ไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยจากกระเพาะก่อน จึงมักถูกนำไปใช้กับผู้ป่วย หรือผู้ที่ไม่สามารถทานยาเองได้ 

 

  1. วิตามินซีแบบชง สามารถนำไปละลายน้ำได้ทำให้ทานง่าย เหมาะกับคนที่ทานยายากหรือไม่ชอบกลืนแบบเม็ด แต่ควรเลือกซื้อวิตามินซีแบบผงที่ปราศจากน้ำตาล เพราะบางยี่ห้อก็ใส่น้ำตาลในปริมาณมาก 

 

วิตามินซีกลุ่ม Ascorbic Acid 100% อาจระคายเคืองต่อกระเพาะ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคกระเพาะอาหารได้ และร่างกายอาจดูดซึมได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นควรเลือกกลุ่มที่เป็น Ascorbic Acid ร่วมกับ Citrus Bioflavonoids  กลุ่ม Ascorbic Acid ร่วมกับ Bioflavonoids หรือ กลุ่ม Acerola cherry เพราะไบโอฟลาโวนอยด์จะช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซีให้ออกฤทธิ์ได้ดีและอยู่ในร่างกายได้นานขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการดูดซึมของวิตามินซีได้ถึง 35% ช่วยเสริมการทำงานของวิตามินซี รวมไปถึงสามารถอยู่ในร่างกายได้นานขึ้นด้วย 

 

เคยสงสัยไหมว่า Acerola cherry คืออะไร อะเซโรล่า เชอร์รี่ เป็นผลไม้เมืองร้อนที่มีวิตามินซีสูงมากกว่าผลไม้สูงกว่าที่พบในส้มถึง 30-80 เท่า และมากกว่าผักผลไม้อีกหลายชนิด มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยยับยั้งสารไนโตรซามีนจากการรับประทานอาหารปิ้งย่างที่ไหม้เกรียม ช่วยดูดซึมซิลิเนียมในลำไส้ ช่วยยับยั้งสารฮีสตามีนที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ และช่วยลดความเสี่ยงการเกิดเชื้อราบนผิวหนัง

โทษของวิตามินซี 

 

สามารถทานวิตามินซีได้อย่างต่อเนื่อง เพราะวิตามินซีเป็นวิตามินละลายในน้ำ ร่างกายจะขับออกทางปัสสาวะตลอด ทำให้ไม่มีการสะสมในร่างกาย แต่ต้องระมัดระวังสำหรับผู้ที่มีภาวะโรคไต เพราะวิตามินซีก่อนจะถูกขับออกจะเปลี่ยนเป็นกรดออกซาลิก เมื่อรวมกับแคลเซียมจะเกิดผลึกแคลเซียมออกซาเลต ทำให้เกิดก้อนนิ่วหรือการอุดตันในระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งผู้ที่เป็นโรคไตหากรับประทานวิตามินซีอาจเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้มากกว่าผู้ป่วยด้วยกันที่ไม่ทานวิตามินซี แต่การจะเกิดก้อนนิ่วก็เป็นไปได้ด้วยหลายสาเหตุ ไม่ใช่เพียงเพราะการทานวิตซีส้มเท่านั้น ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ดีที่สุด 

 

การเลือกซื้อวิตามินซี

 

  • มีเลขจดแจ้งทะเบียนของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) 
  • แจ้งวันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุ 
  • บริษัทที่ผลิตหรือนำเข้ามาจำหน่ายจะต้องระบุสถานที่ มีเบอร์โทรติดต่อได้
  • ฉลากบนบรรจุภัณฑ์ต้องมีข้อมูลรายละเอียดของวิตามินซีใน 1 เม็ดประกอบด้วยอะไรบ้างอย่างชัดเจน 
  • ต้องอยู่ในบรรจุภัณฑ์ทึบแสง เพราะแสงแดดและความร้อนมีผลให้วิตามินเสื่อมคุณภาพเร็ว 

 

วิตามินซียี่ห้อไหนดี / วิตามินซี 1000 mg ยี่ห้อไหนดี

 

เราไม่ได้สรุปว่าวิตามินซียี่ห้อไหนดีกว่า ยี่ห้อไหนดีที่สุด แต่จะนำยี่ห้อวิตามินซีที่หาซื้อได้ในประเทศไทย มีเลยจด อย. ถูกต้อง เป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยม และมียอดซื้อยอดขายกันมากติดอันดับที่ถูกพูดถึง เพื่อเป็นข้อมูลคร่าวๆสำหรับใครที่ต้องการจะเลือกซื้อวิตามินซีไว้ทานแต่ยังไม่รู้จะซื้อยี่ห้อไหนดี หรือต้องการเปลี่ยนยี่ห้อวิตามินซี

 

  1. แนทซี (NAT C) ผลิตโดยบริษัท MEGA We care ที่เป็นโรงงานผลิตยาแห่งแรกและแห่งเดียวในไทยที่ผ่านการรับมาตรฐานการผลิตระดับสากล (GMP) ถึง 2 สถาบันจากออสเตรเลียและเยอรมัน กระปุกพลาสติกทึบแสง ฝาแบบเกลียวหมุนปิดได้แน่นสนิทดี nat c ราคา 230 บาท กระปุก 30 เม็ด 

 

  1. วิตามินซีvistra เป็น Acerola Cherry 1000 mg มีความเป็นธรรมชาติมากที่สุดและยังที่ช่วยดูดซึมได้ดี วิตามินซีวิสตร้าเป็นอีกแบรนด์ที่รู้จักและคุ้นเคยกันดี อยู่ในรูปแบบอาหารเสริมไม่ใช่ยาวิตามินซี ราคาไม่แพง ใน Acerola Cherry 1000 mg. มี Vitamin C ไม่เกิน 60 mg. และ Grape Seed 40 mg จึงช่วยในเรื่องผิวพรรณได้ดี ขวดแก้วสีชาไม่ทึบแสง ฝาเกลียวหมุนปิดแน่นสนิท vistraราคาประมาณ 260 บาท กระปุกละ 45 เม็ด แต่บางร้านอาจหาซื้อได้ถูกกว่า ก็ต้องแล้วแต่ละร้าน ขวดหนึ่งก็ทานได้เดือนนิดๆ 

 

  1. วิตามินซี blackmore วิตามินซีสัญชาติออสเตรเลีย มี 31เม็ดในขวดแก้วสีชาไม่ทึบแสง มองเห็นเม็ดวิตามินได้ เม็ดใหญ่พอประมาณ แต่อาจกลืนยากสำหรับคนมีปัญหาการกลืนเม็ดยา ฝาขวดเปิดปิดแบบสุญญากาศ เป็นยี่ห้อแรกๆที่เข้ามาเปิดตลาดอาหารเสริมจำหน่ายในไทย เป็นวิตามินซีมาตรฐานสากล ที่ได้รับความไว้วางใจกันมานาน ราคาประมาณ 300 บาท

 

  1. วิตามินซีDHC วิตามินซีเชื้อชาติญี่ปุ่นปริมาณ 500 mg ที่มาในรูปของซองซิปทึบแสง แบ่งทานเช้า-เย็น จะได้วิตามินซี 1000 mg  วิตามินซีdhc ใน1ซอง มี 60 เม็ด ทานได้ 30วัน ราคาประมาณ 195-200 บาท 

 

  1. วิตามินซีเกาหลี Eundan Vitamin C 1000 mg หรือ วิตามินซีอึนดัน วิตามินสัญชาติเกาหลีที่การันตีว่าสกัดจากธรรมชาติ 100% เป็นวิตามินซียอดฮิตในเรื่องการบำรุงผิวกระจ่างใส นุ่มเด้ง ลดรอยสิว และยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายด้วย 1ซอง มี 60 เม็ด ราคาประมาณ 350 บาท ทานวันละ 1- 2 เม็ด พร้อมอาหาร เช้า-เย็น 

 

  1. วิตามินซีองค์การเภสัช วิตามินซีแบรนด์ไทยขององค์การเภสัชฯ เป็นวิตามินซีขนาด 500 mg โดยฉลากข้างขวดแจ้งวิตามินซี 500 มิลลิกรัม ไม่มีแจ้งส่วนประกอบอื่น และข้อบ่งใช้คือ สำหรับรักษาอาหารขาดวิตามินซี แม้จะดูไม่มีรายละเอียด แต่เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ขององค์การเภสัชฯ จึงทำให้ยังดูเป็นที่น่าเชื่อถือได้ ที่สำคัญคือ ราคาสบายกระเป๋า ถูกบรรจุในขวดสีชาที่มองเห็นเม็ดวิตซีข้างในได้ ขนาดเม็ดจะเล็กกว่าบางยี่ห้อ ด้วยขนาดปริมาณวิตามินซีเพียง 500 mg เท่านั้น ทานง่าย โดยวิธีการทานคือ วันละ 2 เม็ด  แบ่งทาน เช้า-เย็น ครั้งละ 1 เม็ด แต่ข้อเสียคือ หาซื้อยากสักหน่อย หากซื้อที่องค์การเภสัชฯเลย หรือร้านขายยาราคาส่งแถวอนุสาวรีย์ฯ ข้างรพ.รามาฯ จะมีร้านยาราคาย่อมเยา จะได้ราคาไม่ถึงร้อยบาท แต่ถ้าร้านอื่นๆ หรือซื้อตามออนไลน์ เดี๋ยวนี้ราคาจะอยู่ประมาณ ร้อยกว่าบาทแล้ว โดย 1 ขวด บรรจุ 100 เม็ด 

 

นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์วิตามินซีที่เป็นรูปแบบน้ำ เปิดปุ๊บดื่มปั๊บ ง่ายและสะดวกสำหรับคนยุคปัจจุบัน ที่ผลิตออกมาจำหน่ายแข่งขันกันมากมาย เช่น วิตอะเดย์ วิตามินวอเตอร์  วิตซี ฯลฯ และรูปแบบชงครั้งเดียวต่อดื่มอีกหลายยี่ห้อ การดูแลเอาใจใส่ตัวเองนั่นดี ยิ่งสถานการณ์ ณ ตอนนี้ ที่รายล้อมไปด้วยฝุ่นควัน มลพิษที่เพิ่มขึ้น และ covid-19 โรคภูมิแพ้ที่มีอัตราผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ยิ่งต้องใส่ใจสุขภาพตัวเองมากขึ้น แต่ต้องศึกษาและเลือกให้ดี เพราะของแท้มากคุณภาพมีให้เลือกซื้อ แต่ของปลอมของเลียนแบบก็มีปะปนมากเช่นกัน 

 

สำหรับผู้มีสุขภาพแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัวสามารถหาซื้อทานได้โดยอาจไม่มีผลกระทบใดๆ แต่สำหรับผู้มีโรคประจำตัวควรศึกษาและปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ และอย่ารีบหลงเชื่อที่ว่า วิตามินช่วยไม่ให้เป็นโควิด19 ได้ เพราะขนาดผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง รวมไปถึงนักกีฬาก็ยังติดเชื้อได้ตามที่เราได้ยินข่าวแล้ว แต่วิตามินซีช่วยให้เม็ดเลือดขาวทำงานในการต่อสู้โรคได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นผู้ช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ไม่ใช่ยาป้องกันหรือรักษาโรคได้ขนาดนั้น และจากที่แพทย์ออกมาแนะนำแล้วว่า ควรทานพร้อมกับการออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ร่างกายมีภูมิที่ดี ท้ายนี้ก็ขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง เพราะ “การไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ”

tt ads