tt ads

เพียงแค่เอ่ยว่า “อาหารใต้” ทุกคนย่อมนึกถึงความเผ็ดซี๊ด เครื่องเคราแกงมาเต็ม ใครไม่ไหวอยากใส่เกียร์ถอย แต่ด้วยรสชาติที่อร่อยถึงใจ ทำให้ใครหลายคนสั่นสู้ แม้จะกินไปสูดปากไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าอาหารใต้จะมีแต่ของแรงของเผ็ด เพราะมีอาหารใต้อีกหลายเมนูที่เป็นขวัญใจหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็น เมนูใบเหลียงผัดไข่ สะตอผัดกะปิ หมูหวาน แกงเหลือง คั่วกลิ้ง ขนมจีนน้ำยาใต้ และอีกมากมาย ที่ทั้งอร่อยและจัดจ้านถูกอกถูกใจคนไทยแทบทุกภาค เราได้รวบรวมสูตรอาหารใต้ ที่ทำกินเองได้ที่บ้าน หรือจะนำไปทำขายสร้างอาชีพ ไม่แนนะ..คุณอาจรวยเพราะแกงใต้ก็ได้

1.กุ้งผัดสะตอพริกแกงใต้

สะตอผัดพริกแกงใต้ เมนูยอดฮิต เผ็ดจัดจ้าน เข้มถึงใจ กุ้งผัดสะตอ ได้กินกับข้าวสวยร้อนๆ จานเดียวอาจไม่พอ ไปดูสูตรพริกแกงเผ็ดใต้กันเลย

 

วัตถุดิบ

-สะตอแกะผ่าครึ่ง 100 กรัม 

-กุ้งสดล้างสะเด็ดน้ำ  200 กรัม 

-พริกชีฟ้าสีแดงหั่นแฉลบ 1 เม็ด (มีหรือไม่มีก็ได้) 

-น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ

-น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

-น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ

 

ส่วนผสมพริกแกงใต้

-พริกแห้ง 40 กรัม 

-ตะไคร้ 40 กัม 

-หอมแดง 40 กรัม 

-กระเทียม 30 กรัม 

-ขมิ้น 20 กรัม 

-ข่า 10 กรัม 

-ผิวมะกรูด 3 กรัม 

-พริกไทย 15 เม็ด 

-เกลือ 5 กรัม 

-กะปิ 20 กรัม 

 

วิธีทำเครื่องแกงพริกใต้ 

1.นำตะไคร้ ขมิ้น ข่า หอมแดง ซอยเป็นแผ่นเล็กๆ 

2.โขลกพริกแห้งให้ละเอียด จากนั้นใส่พริกไทยเม็ด เกลือป่น แล้วโขลกให้เข้ากันจะละเอียด 

3.ใส่ผิวมะกรูด ข่า ตะไคร้ โขลกให้ละเอียด 

4.ใส่ขมิ้น กระเทียม โขลกให้ละเอียด 

5.ใส่หอมแดง โขลกให้ละเอียด 

6.ใส่กะปิ แล้วโขลกและคลุกให้เครื่องแกงเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน 

 

วิธีทำกุ้งผัดสะตอพริกแกงใต้ 

1.ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน แล้วนำกุ้งลงไปผัดให้สุก

2.ใส่เครื่องแกงไปผัดให้สุก และเคล้ากันจนได้กลิ่นหอมเครื่องแกง 

3.ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ เติมน้ำลงไปเล็กน้อย 

4.ผัดต่อจนสะตอสุก ตักใส่จาน แต่งหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าที่เตรียมไว้ พร้อมเสิร์ฟ 

 

*การผัดสะตอ ผัดให้พอสะตอสะดุ้งความร้อนเท่านั้น เพื่อจะได้สะตอที่กรอบและอร่อย หากผัดนานเกินไป จะทำให้สะตอนิ่มเกินไป แต่ถ้าใครชอบทานสะตอแบบนิ่มๆ ก็สามารถผัดให้นานขึ้น 

2.แกงส้มใต้ 

“แกงส้ม” เป็นแกงรสเปรี้ยวที่มีทั้งในภาคใต้และภาคกลาง แต่เครื่องแกงส้มใต้ส่วนผสมจะใช้ขมิ้น ส่วนใหญ่จะใส่ปลาหรือกุ้ง แต่ที่เรานำมาฝาก จะเป็นสูตรแกงส้มใต้กุ้งสดใส่หน่อไม้ แต่ถ้าใครไม่ชอบหน่อไม้ อาจใส่มะละกอ ยอดมะพร้าวอ่อน และหากใครแพ้กุ้ง ก็เปลี่ยนเป็นเนื้อปลาแทนกุ้ง และสูตรพริกแกงส้มใต้นี้จะใช้พริกแห้ง และน้ำมะขามเปียก

 

วัตถุดิบ

-กุ้งสด 500 กรัม 

-หน่อไม้สดหรือหน่อไม้ดอง(ตามชอบ) ลวก 500 กรัม 

-น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ

-มะนาว 1 ลูก

 

ส่วนผสมเครื่องแกงส้มใต้

-พริกแห้ง 15-20 เม็ด (ตามความชอบเผ็ดน้อย-มาก)  

-ขมิ้น 30 กรัม 

-หอมแดง 7-8 หัว 

-กระเทียม 1 หัว

-กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ

-เกลือป่น 1 ช้อนชา

 

วิธีทำแกงส้มใต้ 

1.นำพริกแห้ง ขมิ้น หอมแดง กระเทียม ไปโขลกให้ละเอียด 

2.ใส่กะปิ และ เกลือป่นลงไปโขลกและเคล้าให้เข้ากัน

3.ต้มน้ำให้เดือด แล้วตักเครื่องแกงส้มลงไปละลายน้ำ ตามด้วยน้ำมะขามเปียก 

4.เมื่อน้ำเดือดจนเครื่องแกงพลุ่ง ใส่หน่อไม้ที่เตรียมไว้ลงไปต้ม

5.เมื่อน้ำเดือดพล่านได้ที่ ให้ใส่กุ้งตามลงไป โดยไม่ต้องคน แล้วปิดฝา 

6.เมื่อกุ้งสุกดี ปิดไฟ แล้วบีบมะนาวลงไป จากนั้นคนให้เข้ารส ก่อนตักเสิร์ฟ 

3.แกงกะทิปูใบชะพลู

แกงกะทิปูใบชะพลูที่เข้มข้นถึงเครื่องแกง จะทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือทานกับขนมจีนก็ได้ อร่อยฟินจนวางช้อนไม่ลง 

 

วัตถุดิบ

-กรรเชียงปู หรือ เนื้อปู (ตามชอบ) 300 กรัม 

-ใบชะพลู 1 ถ้วย 

-น้ำเปล่า 250 มิลลิลิตร 

-น้ำกะทิ 500 มิลลิลิตร (สำหรับแบ่งทำหัวกะทิและหางกะทิ อย่างละ 250 มิลลิลิตร) 

-น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

-น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ

 

สูตรพริกแกงกะทิใต้ 

-พริกแห้งแช่น้ำ 15-20 เม็ด 

-ข่าแก่หั่นแว่นบาง 1 ช้อนโต๊ะ

-ตะไคร้ซอย 5 ต้น 

-ขมิ้นสดหั่นบาง 3 ท่อน 

-กระเทียม 3 ช้อนโต๊ะ 

-หอมแดง 6 หัว 

-พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา 

-กะปิ 1 ช้อนชา 

-เกลือป่น  ½  ช้อนชา 

 

วิธีทำแกงกะทิปูใบชะพลู

1.โขลกพริกไทยเม็ดให้ละเอียด ตามด้วยพริกแห้ง ข่า ขมิ้น ตะไคร้ หอมแดง และเกลือ โขลกให้ละเอียด

2.ใส่กะปิตามลงไปแล้วโขลกให้เข้าจนเป็นเนื้อเดียวกัน 

3.ตั้งหม้อบนเตาแก๊สใช้ไฟปานกลาง ใส่หัวกะทิที่เตรียมไว้ลงในหม้อ ต้มให้เดือด

4.เมื่อกะทิเดือด ตักเครื่องแกงใส่ลงไป คนให้ละลาย

5.นำกะทิที่เหลือ (ส่วนที่แบ่งไว้ทำหางกะทิ) ผสมกับน้ำเปล่าให้เข้ากัน แล้วใส่ลงในหม้อ 

6.เมื่อน้ำแกงเดือดพล่าน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ กะปิ และ เกลือป่น 

7.ใส่กรรเชียงปู (หรือเนื้อปู) ตามด้วยใบชะพลูซอยลงไป คนให้เข้ากัน 

8.เมื่อแกงเริ่มเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ ยกลงจากเตา 

9.ตักแกงกะทิฯใส่ถ้วย แต่งหน้าด้วยการนำกะทิมาราดเล็กน้อยให้พอสวยงาม พร้อมเสิร์ฟ 

4.สูตรแกงไตปลาภาคใต้

ด้วยรสชาติอันเผ็ดร้อนถึงใจ และเอกลักษณ์ของพริกแกงไตปลาใต้ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เป็นอีกเมนูอาหารปักษ์ใต้ที่ติดติดใจใครหลายคนๆ เพราะกินกับข้าวสวยร้อนๆ ไม่ว่าจะเป็นสูตรแกงใตปลาแห้ง หรือไตปลาน้ำ ก็อร่อยฟิน กินจนลืมอิ่ม เพราะหรอยได้แรงอกนิ เราจึงไม่พลาดที่จะนำวิธีแกงไตปลาปักษ์ใต้มาฝาก ตั้งแต่วิธีทำพริกแกงไตปลาใต้ไปจนถึงการทำแกงไตปลา ครบทุกขั้นตอน 

 

ส่วนผสมแกงไตปลาภาคใต้

-เนื้อปลาทูย่าง 1 ถ้วย 

-ไตปลาทู ½ ถ้วย 

-น้ำเปล่า 2-3 ถ้วย 

-หน่อไม้ ½ ถ้วย 

-มะเขือเปราะ ½ ถ้วย 

-ถั่วฝักยาวหั่นท่อน ½ ถ้วย 

-น้ำมะขามเปียก ½ ถ้วย 

-ตะไคร้ 2 ต้น 

-ข่า 1 แง่ง 

-หอมแดง 2 หัว 

-ใบมะกรูดฉีก 4 ใบ 

-กะปิ ½ ช้อนโต๊ะ 

 

วัตถุดิบ

-พริกแห้ง 15-20 เม็ด 

-กระเทียม 1 หัว 

-หอมแดง 2 หัว 

-พริกไทยขาว 1 ช้อนโต๊ะ

-พริกไทยดำ 1 ช้อนโต๊ะ 

-ตะไคร้สับ 1 ต้น 

-ขมิัน 1 แง่ง 

-ผิวมะกรูด 1 ลูก 

 

วิธีทำพริกแกงไตปลา

1.ตำพริกแห้งให้ละเอียด ใส่ตะไคร้สับ ขมิ้น และผิวมะกรูดตามลงไป แล้วโขลกให้ละเอียด 

2.ใส่หอมแดง กระเทียม โขลกให้เข้ากันดี 

3.นำพริกไทยดำและพริกไทยขาวไปแยกตำให้ละเอียด 

4.นำพริกไทยที่แยกตำมาใส่เครื่องแกงและโขลกจนเครื่องแกงทั้งหมดละเอียดและเป็นเนื้อเดียวกัน 

5.ยกหม้อขึ้นตั้งเตา ใส่หอมแดง ตะไคร้ ข่า ใบมะกรูดฉีก

6.ใส่น้ำมะขามเปียกเล็กน้อยเพื่อดับคาว (ใส่มากเกินไปจะทำให้แกงเปรี้ยว) 

7.ใส่ไตปลาและน้ำเปล่า ตั้งไว้ให้เดือด 

8.เมื่อแกงเดือดได้ที่ ปิดไฟ ยกขึ้นแล้วกรองเอาแต่น้ำ ตั้งพักไว้ 

 

วิธีทำแกงไตปลาใต้

1.ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด ตามด้วยเครื่องแกงที่โขลกไว้ 

2.ใส่กะปิ ใบมะกรูด ไตปลาที่ต้มและพักไว้ก่อนนี้ 

3.เมื่อน้ำเดือดพล่านได้ที่ ใส่มะเขือเปราะ หน่อไม้ เนื้อปลาย่าง และ ถั่วฝักยาว 

4.เมื่อน้ำเดือดและดูว่าทุกอย่างสุกดีแล้ว จากนั้นปิดไฟ พร้อมตักเสิร์ฟ 

5.ใบเหลียงผัดไข่

เมนูจากผักพื้นบ้านประจำภาคใต้ และมักจะมีใครหลายคนที่พูดว่า มาถึงถิ่นใต้ ต้องห้ามพลาดเมนูผัดใบเหลียง

 

วัตุดิบ

-ใบเหลียง 200 กรัม 

-ไข่ไก่ 3 ฟอง 

-กุ้งเสียบ (สำหรับโรยหน้า) 

-กระเทียม 1 ½ ช้อนโต๊ะ

-ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ

-ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

-น้ำมัน

 

วิธีทำใบเหลียงผัดไข่

1.ล้างใบเหลียงให้สะอาด สะเด็ดน้ำและพักไว้

  1. เด็ดใบเหลียง โดยเลือกเอาแต่เฉพาะใบอ่อน และใบที่ไม่แก่เกินไป หรือถ้าใบใหญ่ไปก็ให้เด็ดครึ่ง 

3.ตั้งกระทะ ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันให้ร้อน 

4.ใส่กระเทียมสับลงไปผัดให้เหลืองและมีกลิ่นหอมเจียว 

5.ใส่ใบเหลียงลงไปผัดพอให้ผักสลดเล็กน้อย 

6.ตอกไข่ใส่ลงไป แล้วปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและซอสหอยนางรม

7.ยีไข่และผัดให้คลุกเคล้ากับใบเหลียง

8.ปิดไฟ ยกกระทะ ตักผัดฯ ใส่จานแล้วโรยด้วยกุ้งเสียบก่อนเสิร์ฟ 

 

เพียงแค่ 5 เมนูสุตรอาหารใต้รสเด็ดที่เราได้นำมาฝาก ก็สามารถทำทานเองได้ที่บ้านง่ายๆ ให้หรอยถึงอกถึงใจ หรือนำไปปรับเป็นสูตรเฉพาะเพื่อต่อยอดในการสร้างรายได้ก็ดีไม่น้อยเลย เพราะอาหารใต้ไม่ได้มีดีแค่เพียงความหรอยแรง แต่ยังเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ด้วยส่วนผสมที่เต็มไปด้วยสมุนไพรไทย ที่เป็นยาในรูปแบบของอาหาร ตรงกับคำที่ว่า “ทานอาหารให้เป็นยา ดีกว่าทานยาเป็นอาหาร” 

 

tt ads