ในปัจจุบัน มีความนิยมใช้สบู่เหลวมากขึ้น เพราะข้อดีของสบู่เหลวที่สามารถพกพาได้สะดวก ไม่เลอะเทอะ ล้างออกง่าย และยังมีการผสมสารต่าง ๆ เพื่อบำรุงผิว แต่รู้ไหมว่า สบู่ก้อน เป็นได้มากกว่าการใช้ฟอกทำความสะอาด หลายคนอาจคาดไม่ถึงว่า สบู่ก้อน สามารถนำไปใช้ได้หลากหลาย ดังนั้น เราจะมาพูดถึงประโยชน์ของสบู่อาบน้ำชนิดก้อนนำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง 

ใช้ทำความสะอาด

แน่นอนข้อแรกก็ต้องพูดถึงคุณสมบัติของสบู่ ซึ่งการใช้ทำความสะอาด เป็นหน้าที่หลักสบู่ก้อนมาหลายยุคหลายสมัย ก่อนจะมีการพัฒนาและผลิตสบู่เหลวมาใช้จนได้รับความนิยมเป็นวงกว้างในปัจจุบัน เมื่อใช้สบู่ก้อนไปสักระยะหนึ่ง จะเหลือสบู่ก้อนเล็ก ๆ ที่อาจแข็งเกินไปจนอาจนำไปใช้ต่อได้ยาก ให้นำสบู่ก้อนเล็ก ๆ เหล่านั้นมาหลอมให้กลายเป็นสบู่ก้อนใหม่ เป็นสบู่ก้อนใหญ่กว่าเดิม ด้วยการเก็บรวบรวมสบู่ก้อนเล็ก ๆ จิ๋ว ๆ ทั้งหลายไปต้มจนเนื้อสบู่หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเติมน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นเพิ่มเข้าไป แล้วจึงนำไปเทใส่ภาชนะที่ต้องการ จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็น และเมื่อสบู่เซ็ตตัวดีแล้วค่อยนำออกมาแกะใช้งาน 

บรรเทาอาการคันจากแมลงกัดต่อย

เมื่อมีอาการคันจากแมลงกัดหรือต่อย ให้นำสบู่ก้อนจุ่มน้ำ แล้วถูให้ทั่วบริเวณที่แมลงกัด หรือบริเวณที่คัน สบู่จะช่วยเคลือบบริเวณผิวหนังที่โดนแมลงกัดให้เป็นชั้นบาง ๆ ช่วยบรรเทาอาการคันได้ระดับหนึ่ง 

กำจัดกลิ่นรองเท้า 

กลิ่นเหม็นอับในรองเท้าที่เป็นปัญหาของใครหลายคน สามารถช่วยได้โดยการนำสบู่ก้อนเล็ก ๆ หรือเศษสบู่ใส่เข้าไปในรองเท้าที่มีกลิ่นอับ ปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืน เมื่อจะนำมาสวมใส่ จะพบว่ากลิ่นอับรองเท้าหายไป 

เสื้อผ้ากลิ่นหอมสดชื่น 

สบู่ก้อนมีคุณสมบัติในการช่วยดูดซับความชื้นจากตู้เสื้อผ้าและลิ้นชักต่าง ๆ ได้ดี นำสบู่ก้อนเล็ก ๆ เหลือใช้ห่อใส่ถุงผ้า หรือเศษผ้า แล้วนำไปใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้า หรือใส่ในลิ้นชัก จะช่วยให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมสดชื่น และยังช่วยไล่แมลงต่าง ๆ ไม่ให้เข้าไปหลบซ่อน หรือใช้ตู้เสื้อผ้าเป็นที่อยู่อาศัย 

เปลี่ยนงานเย็บให้ง่ายขึ้น 

ผ้าบางประเภทอาจยากต่อการเย็บ แม้จะใช้เข็มเล่มใหม่ก็ตาม หากเข็มไม่สามารถใช้งานได้ปกติ อันมีสาเหตุจากเนื้อผ้า ให้นำเข็มเย็บผ้าไปปักลงบนก้อนสบู่ ความลื่นของสบู่ก้อนจะช่วยใ้หเข็มทำงานได้สะดวกและง่ายขึ้น 

ปลดซิป

บ่อยครั้งที่เรามักจะเจอปัญหาของ ซิปเสื้อผ้า ซิปฝืด ซิปรูดไม่ขึ้น นำสบู่ก้อนมารูดซิปที่ฝืด ความลื่นของสบู่ก้อนจะช่วยให้ซิปกลับมาทำงานง่ายขึ้น 

 

ช่วยเก็บเศษแก้ว 

เมื่อทำวัสดุที่เป็นแก้วแตก เศษแก้วชิ้นใหญ่ ๆ มักจะไม่มีปัญหาในการเก็บ แต่สำหรับเศษแก้วเล็ก ๆ หากเก็บไม่ระวัง อาจได้แผล เลือดออกกันบ้างแน่ ๆ  ดังนั้น เมื่อต้องการจะเก็บเศษแก้วแตกชิ้นเล็ก ๆ ให้นำก้อนสบู่ไปจุ่มน้ำให้เปียก จากนั้นกดลงไปตามพื้นที่มีเศษแก้วแตก จะช่วยให้เก็บเศษแก้วเหล่านั้นได้อย่างปลอดภัยขึ้น 

แก้ปัญหาลิ้นชัก บานประตูฝืด 

 

เมื่อลิ้นชักฝืดจนดึงไม่ออก หรือบานประตูเลื่อนปิด – เปิด ลำบาก ให้นำสบู่ก้อนถูกตามขอบลิ้นชัก หรือตามขอบประตูในบริเวณที่มีความฝืดหรือติดขัด 

ซ่อนข้อบกพร่อง 

เวลาที่ต้องทำการขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ หรือเปลี่ยนที่ตั้งของภายในบ้าน ทำให้เราพบเจอกับรอย ตำหนิ  หรือหลุม บนพื้น หรือตามผนังบ้าน หากเป็นรอยหรือหลุมเล็ก ๆ เราสามารถปกปิดด้วยการถูสบู่ก้อนเติมรอยหรือหลุมนั้นให้เต็ม 

ช่วยทำความสะอาดเครื่องครัว 

นำสบู่ก้อนไปถูเคลือบด้านล่างของกระทะก่อนจะนำไปใช้งานปกติ จะช่วยให้สามารถทำความสะอาดกระทะได้ง่ายขึ้นหลังจากเสร็จสิ้นจากการปรุงอาหาร 

ป้องกันฝ้าบนกระจก 

หลังอาบน้ำมักจะเกิดฝ้าบนกระจกในห้องน้ำ หรือประตูกระจก สามารถใช้สบู่ก้อนมาช่วยแก้ปัญหาฝ้าไอน้ำเหล่านี้ได้ ด้วยการรอหรือใช้ผ้าเช็ดกระจกให้แห้ง แล้วจึงนำสบู่ถูลงบนกระจก และใช้ผ้าเช็ดให้แห้งอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังสามารถใช้วิธีนี้กับการเช็ดฝ้าบนแว่นตาได้ด้วย 

ปกป้องต้นไม้ 

ปกป้องต้นไม้จากแมลงที่ชอบมารบกวนให้น่ารำคาญใจ ด้วยการนำเศษสบู่ใส่ใว้ในกระถาง โดยการวางบนดิน เพียงเท่านี้แมลงก็จะไม่มารบกวนอีกต้นไม้แสนรักอีกนาน ตราบใดที่เศษสบู่ยังคงสภาพไว้ ไม่โดนแดดหรือน้ำละลายสบู่หมดไปเสียก่อน 

 

เรื่องของโครงสร้างเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับการสร้างบ้านและอาคาร นับตั้งแต่หลังคา ผนัง ตัวบ้าน ตลอดจนถึงการปูกระเบื้องพื้นบ้าน และยังมีสิ่งเล็ก ๆ อีกอย่างหนึ่งที่เจ้าของบ้านไม่ควรมองข้าม คือ การยาแนว ที่ช่างจะต้องใช้เมื่อทำการปูกระเบื้อง เพราะนอกจากเพื่อความสวยงามแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของพื้นบ้านและยังเป็นการป้องกันปัญหาจุดรั่วซึมที่เจอได้บ่อยในหน้าฝนอีกด้วย 

แต่ยังมีหลายคนที่อาจไม่รู้ว่ายาแนวคืออะไร ยาแนวมีกี่ประเภท ใช้ยาแนวแบบไหนถึงจะเหมาะกับพื้นกระเบื้องที่บ้าน 

อะไรคือยาแนว? 

ยาแนวหรือกาวยาแนว คือวัสดุลักษณะกาว ที่มีความยืดหยุ่นสูง ทำหน้าที่เชื่อมรอยต่อของกระเบื้องแต่ละแผ่นเข้าด้วยกัน ให้ดูเรียบร้อย สวยงาม สะอาดตา โดยการใช้ยาแนวนั้นจะใช้ควบคู่ไปกับปูนกาว หรือ กาวซีเมนต์สำหรับปูกระเบื้อง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น 

ยาแนวมีกี่แบบ?

ยาแนวที่ใช้ปิดรอยต่อระหว่างวัสดุต่าง ๆ ในแบบ Sealant นั้นจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้ 

  1. อะคริลิค ยาแนวที่ทำมาจากวัสดุไฮโดรคาร์บอน ที่มีน้ำเป็นตัวทำละลาย มีความยืดหยุ่น 5% แต่เมื่อแข็งตัวแล้วจะไม่ละลายน้ำ สามารถปิดรอยแล้วทาสีทับได้เลย ราคาถูก แต่ข้อเสียคือ รับแรงได้น้อย เพราะยืดหยุ่นได้เพียง 5% อีกทั้งยังมีน้ำเป็นตัวทำละลาย จึงไม่เหมาะกับการนำไปใช้งานในพื้นที่ต้องเปียกน้ำตลอดเวลา เช่น ห้องน้ำ ห้องซักล้าง เป็นต้น
  2. โพลียูริเทน หรือที่มักจะเรียกว่า พียู ยาแนวประเภทนี้จะมีความยืดหยุ่นถึง 35% มีความแข็งแรง ทนทาน แห้งแล้วจะไม่หดตัว ทนแสงยูวี ลงแล้วทาสีทับได้ สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร โดยใช้ยาแนวรอยต่อได้ทั้งเมทัลชีท เหล็ก กระจก อะลูมิเนียม โพลีคาร์บอเนต
  3. ซิลิโคน สารประกอบอนินทรีย์ มีความยืดหยุ่น 25% มีแรงยึดเกาะสูง ทนรังสียูวีได้ดี ใช้งานได้หลากหลาย ซิลิโคนแบบมีกรดจะมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว แห้งเร็ว แต่ใช้ยาแนวโลหะไม่ได้ ต้องเลือกใช้ซิลิโคนแบบไม่มีกรด ที่มีความยืดหยุ่นกว่า แถมไม่มีกลิ่นรบกวน แต่ข้อเสียคือแห้งช้า ทาสีทับไม่ได้ และมีราคาแพงกว่ายาแนวประเภทอื่น 
  4. ไฮบริด หรือ โมดิฟายซิลิโคน เป็นการผสมผสานระหว่างซิลิโคนกับพียูเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานได้หลากหลายขึ้น เพราะนำข้อดีของวัสดุยาแนวทั้ง 2 ชนิดมาไว้ในวัสดุเดียว นั่นคือ การยืดหยุ่นสูง ป้องกันรังสียู ยึดเกาะดี ใช้กับพื้นที่เปียกน้ำได้ และใช้กับวัสดุได้เกือบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น พีวีซี ไม้ ปูน คอนกรีต ไฟเบอร์ซีเมนต์ โพลีสไตรีน หินธรรมชาติ โลหะ และ สเตนเลส อีกทั้งยังไม่มีกรดและสารอันตราย เช่น ไอโซไซยาเนต ที่อาจก่อให้เกิดปฏิกิริยากับโลหะและวัสดุต่าง ๆ จึงปลอดภัยกับผู้ใช้งาน ข้อดีที่มีมากขึ้น ทำให้ราคายาแนวประเภทนี้สูงกว่าชนิดอื่น ๆ 

เลือกยาแนวแบบไหนให้เหมาะกับการใช้งาน 

  1. ยาแนวธรรมดา คือ ยาแนวที่ใช้งานทั่วไป เป็นยาแนวราคาไม่แพง แต่ไม่สามารถป้องกันเชื้อราดำได้ จึงไม่เหมาะกับพื้นที่เปียกชื้น แต่เหมาะกับการใช้งานพื้นภายในตัวอาคารทั่วไปมากกว่า 
  2. ยาแนวกันเชื้อรา คือ กาวยาแนวที่ป้องกันเชื้อราดำได้ เพราะมีการใส่สารยับยั้งการเกิดเชื้อรา จึงเป็นยาแนวที่นิยมใช้มากที่สุด สามารถใช้กับพื้นที่มีความเปียกชื้นได้ เช่น ห้องน้ำ พื้นที่ภายนอกอาคาร เป็นต้น 
  3. ยาแนวอีพ็อกซี่ คือ กาวยาแนวที่ดีที่สุด ทนต่อสารเคมี เหมาะในการใช้งานกับพื้นที่ต้องการความทนทาน และความสะอาดเป็นพิเศษ เช่น พื้นโรงงาน สระว่ายน้ำ แต่ด้วยเป็นกาวที่ค่อนข้างมีส่วนผสมที่หลากหลาย มีราคาแพง การนำมาใช้งานจึงต้องเป็นคนที่มีความชำนาญหรือมีประสบการณ์
  4. ยาแนวกระเบื้องร่องเล็ก คือ กาวยาแนวที่มีความเหลวมากเป็นพิเศษ เพื่อช่วยในการไหลตัวเข้าไปตามร่องกระเบื้อง แต่แห้งตัวเร็วเป็นพิเศษ จึงไม่ควรผสมรอไว้ และเมื่อยาแนวแห้งตัวแล้วไม่ควรใส่น้ำเข้าไปผสมอีก เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพของยาแนวลดลง เหมาะกับการใช้งานปูกระเบื้องที่ต้องปูชิดกัน เช่น กระเบื้องแกรนิโต้ 
  5. ยาแนวสระว่ายน้ำ เป็นกาวยาแนวใช้ปูกระเบื้องสระว่ายน้ำ ซาวน่า สปา เพราะเป็นยาแนวที่ทนต่อคลอรีน และรองรับแรงอัดได้ดี 

 

หากเลือกใช้ยาแนวไม่ถูกกับประเภทของงานและชนิดของกระเบื้อง อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายได้ เช่น อาจทำให้กระเบื้องหลุดร่อน หรือกระเบื้องหดตัวเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้น้ำรั่ว น้ำซึม หรือสุดท้ายยาแนวก็ร่อนออก ทำให้มีค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าอุปกรณ์และค่าจ้างในการซ่อมแซมพื้นกระเบื้อง 

อีกปัญหาหนึ่งของบ้านที่มักพบได้บ่อยในหน้าฝน คือ ปัญหาน้ำรั่ว น้ำซึม และส่วนใหญ่ก็มักจะเกิดขึ้นกับพื้นที่เสี่ยงต่อปัญหานั้นในจุด ๆ เดิม การที่รู้ก่อน จะได้รับมือและป้องกันได้ทัน ก่อนปัญหาจะลุกลามจนสร้างความเสียหายให้กับบ้านมากกว่าที่คิด ซึ่งจุดใหญ่ ๆ ที่มักจะเกิดปัญหาเหล่านั้นได้แก่พื้นที่ต่อไปนี้ 

Details

ใครที่กำลังหาทริคดีๆในการจัดบ้านถูกหลักฮวงจุ้ย แต่จะให้ซินแสมาช่วยตรวจสอบดูแล ก็อาจไม่สะดวก บทความนี้มีทริคในการจัดบ้านตามฮวงจุ้ยง่ายๆ ที่สามารถจัดตามเองได้โดยไม่ยาก ไม่ต้องทุบ รื้อ ถอน ให้ยุ่งยาก และไม่ต้องสิ้นเปลืองจนงบบานปลาย เพียงแค่ใช้เวลาที่สะดวกแต่งบ้านตามหลักฮวงจุ้ยเรียกทรัพย์เสริมดวง ดึงดูดโชคลาภ และความสุขสมบูรณ์เข้ามาสู่คนในบ้าน 

หน้าบ้านเปิดโล่งรับทรัพย์ 

หลักฮวงจุ้ยหน้าบ้าน บริเวณหน้าบ้าน โดยเฉพาะลานที่ตรงกับประตู เปรียบเป็นโต๊ะทานข้าว ส่วนประตูก็เปรียบเหมือนกับปาก ที่รอรับอาหาร เมื่อเป็นบ้าน ก็รอรับพลังงานดีๆเข้ามาในบ้าน ดังนั้น..หน้าบ้านจึงไม่ควรมีข้าวของหรือสิ่งกีดขวางใดๆ หรือแม้แต่รองเท้าก็ไม่ควรถอดขวางหน้าประตูบ้าน แต่ควรถอดวางบนชั้นหรือเก็บใส่ตู้ให้อยู่ด้านใดด้านหนึ่ง และไม่ควรอยู่เหนือลม เพราะลมจะพัดพากลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เข้าสู่ภายในบ้าน ถือว่าผิดหลักฮวงจุ้ย 

 

ประตูบ้านห้ามตรงกับประตูห้องน้ำ

ประตูหลักเข้าบ้าน ไม่ควรตรงกับประตูห้องน้ำ พอเปิดประตูเข้าบ้านแล้วเห็นประตูห้องน้ำตรงหน้า ถือว่าผิดหลักฮวงจุ้ยบ้าน และควรหลีกเลี่ยง เพราะประตูบ้านคือทางเข้าของพลังงาน ในขณะที่ประตูห้องน้ำเป็นแหล่งของพลังไม่ดี จะทำให้พลังงานลบไหลเวียนทั่วบ้าน ส่งผลให้คนในบ้านมีแต่ความวุ่นวาย แต่ถ้าเป็นบ้านสำเร็จรูป ไม่สะดวกต่อการแก้ไข ก็แก้ด้วยการนำมู่ลี่มาติดไว้หน้าประตูห้องน้ำ นำเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถบังได้ เช่น ตู้ผ้า ฉากกั้น ฯลฯ วางบังหน้าประตูห้องน้ำแทน 

 

เปิดประตู-หน้าต่างรับทรัพย์ 

เปิดประตูและหน้าต่างเพื่อรับพลังงานดีๆ เรียกเงินเรียกทองเข้าบ้าน โดยไม่จำเป็นต้องเปิดทั้งวัน แต่เปิดเพื่อรับลมและอากาศใหม่ๆเข้าสู่บ้าน เพราะลมจะนำพาออกซิเจน โชคลาภเข้าบ้าน เปิดประตู หน้าต่างช่วงเช้าเพื่อรับอากาศใหม่ของวัน หากบ้านไหนที่ติดกับการเปิดแอร์ ก็ลองเปิดประตู-หน้าต่างรับลม เพื่อให้อากาศเก่า รวมถึงเชื้อโรคที่คั่งค้างได้ถ่ายเทออกไป เปลี่ยนลมใหม่ๆเข้ามา และเป็นการเรียกโชค เรียกเงินเรียกทองเข้าบ้านด้วย 

รับแสงสว่างเข้าบ้าน 

แสงสว่าง เป็นพลังหยาง ซึ่งบ้านที่ดีตามหลักฮวงจุ้ยควรจะมีแสงสว่างเข้าบ้านที่เพียงพอ เพื่อให้มีพลังหยาง พลังแห่งความเคลื่อนไหว ไหลเวียนอยู่ในบ้าน แต่ถ้ามากเกินไป จะทำให้มีแต่ความเร่งรีบ ไม่ค่อยได้พัก เหนื่อยและเคร่งเครียดเกินไป จึงควรจัดให้มีแสงได้อย่างพอดี ให้เหมาะกับตำแหน่งที่ใช้งาน อย่างตั้งโต๊ะอ่านหนังสือ หรือโต๊ะทำงานที่แสงสว่างจากภายนอกสามารถส่องเห็นได้ และติดตั้งแสงไฟสีขาว เพื่อจะได้ไม่เสียสายตา แต่อาจติดไฟวอร์มไลท์บริเวณมุมพักผ่อน เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้ก็ควรมีไฟสว่างเพียงพอที่เป็นบริเวณทางเดินต่างๆ เพราะเหมือนมีพลังงานนำทาง และยังช่วยป้องกันอุบัติเหตุ

 

หิ้งพระหันหน้าทิศเหนือหรือทิศตะวันออก

ห้ามหันไปทางทิศตะวันตกหรือใต้ ห้ามหันหน้าเข้าประตูห้องน้ำ การติดตั้งหิ้งพระไม่ควรต่ำหรือสูงเกินไป แต่ควรให้สูงขึ้นเหนือศีรษะเล็กน้อย ที่เราพอจะนำธูป-เทียน เครื่องบูชาขึ้นไปวางได้อย่างสะดวก แต่ก็ไม่ควรต่ำจนเดินผ่านหัวชนหิ้งพระได้ เพราะจะเป็นอันตรายกับคนในบ้านเวลาเดินผ่านได้ 

 

หัวนอนห้ามอยู่หน้าห้องน้ำ / ห้ามตรงกับประตู / ห้ามหันหลังให้ประตู

ไม่ควรหันหัวนอนตรงกับประตูห้องน้ำ หน้าต่างและประตู หรือแม้แต่หันหลังให้ประตู เพราะมีความเชื่อว่าจะทำให้เดือดร้อน มีแต่ปัญหาเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย แต่ที่จริงแล้วการที่เราไม่ควรหันหัวนอนไปยังหน้างต่าง ประตู และห้องน้ำ ก็เพราะว่าจะมีลม มีความชื้นพัดเข้ามาตลอดเวลา ทำให้ประทะกับพลังงานตรงตัว และยังทำให้ศีรษะเราได้รับความชื้น เป็นสาเหตุที่จะทำให้เราป่วยไข้ไม่สบายได้ จึงควรจัดตั้งเตียงเยื้องประตู แต่ยังมองเห็นประตูได้ แต่ถ้าหากไม่สามารถย้ายเตียงได้ เพราะอาจมีพื้นที่จำกัด หรือเตียงติดกับพื้น เคลื่อนย้ายไม่สะดวก ให้แก้ด้วยการนำเฟอร์นิเจอร์ เช่น โซฟา เก้าอี้ มาวางที่ปลายเตียง ส่วนหน้าต่างตรงหัวนอนนั้น ให้แก้ด้วยการติดผ้าม่านและปิดหน้าต่างเวลานอน 

 

บันไดบ้าน

ไม่ควรจัดที่นั่งบริเวณใต้บันได เพราะอาจส่งผลให้คนในบ้านอารมณ์หงุดหงิดง่าย สุขภาพย่ำแย่ แต่ถ้าพื้นที่จำกัด หรือไม่สามารถย้ายตำแหน่งที่นั่งได้ ควรติดไฟเพิ่มแสงสว่าง เพราะใต้ท้องบันไดเปรียบเหมือนท้องมังกร ควรเสริมด้วยไฟ 3 ดวง เพื่อเสริมทรัพย์ เสริมมงคลตามหลักฮวงจุ้ย

 

ฮวงจุ้ยห้องครัวที่ถูกต้อง

  • ห้องครัวต้องสะอาดเสมอ ตามความเชื่อ ห้องครัวเปรียบเสมือนขุมทรัพย์ของบ้าน เป็นห้องที่ต้องปรุงและทำอาหารให้ทุกคนในบ้านทาน ดังนั้นห้องครัวจึงต้องมีความสะอาดอยู่เสมอ หากห้องครัวมีความสกปรก อาจทำให้คนในบ้านเจ็บป่วย เพราะด้วยเรื่องของสุขอนามัยด้านอาหาร 
  • ประตูครัวห้ามตรงกับเตาไฟ ห้ามตั้งเตาไฟตรงกับประตูครัว เพราะจะส่งผลให้เกิดความขัดแย้งและปัญหาสุขภาพของคนในบ้าน แต่สามารถแก้ไขโดยการตกแต่งด้วยของใช้สีเหลืองหรือสีน้ำตาล 
  • ห้ามตั้งเตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้าตรงทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เพราะเป็นตำแหน่งลดอำนาจหัวหน้าครอบครัว หรือแก้เคล็ดด้วยการวางน้ำพุเล็กๆ ใกล้ตำแหน่งเตา เพื่อลดพลังธาตุไฟ 
  • อย่าตกแต่งห้องครัวด้วยสีแดง เพราะห้องครัวเป็นธาตุไฟอยู่แล้ว จึงไม่ควรไปเสริมด้วยสีแดงอีก
  • ตำแหน่งเตา ไม่ควรอยู่ระหว่างอ่างล้างจานกับตู้เย็น เพราะเป็นแหล่งกำเนิดแห่งความเศร้า 

 

ฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน

โต๊ะทำงานไม่ควรอยู่ใกล้ประตูหรือทางเดิน เพราะจะทำให้เจอแต่เรื่องวุ่นวาย ไม่สงบ และไม่มีสมาธิในการทำงาน แก้ด้วยการนำต้นไม้จริงมาจัดวางตกแต่งบนโต๊ะ เพื่อช่วยลดทอนความแรงตามฮวงจุ้ย และถ้าโต๊ะทำงานที่ข้างหน้าเป็นทางเดิน หรือมีทาง 3 แพร่งพุ่งตรงเข้ามาที่โต๊ะ ให้แก้ฮวงจุ้ยด้วยการนำแก้วคริสตัลมาวางด้านหน้าหรือบริเวณมุมโต๊ะทำงาน

 

ตู้ปลาเสริมมงคล

บ้านควรมีตู้ปลาเพื่อเสริมความมั่งคั่งร่มเย็นของคนในบ้าน และควรเป็นปลาที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น ปลาเงิน ปลาทอง ปลามังกร ปลาคาร์ฟ ส่วนจำนวนของปลาก็ควรเป็นเลขที่เป็นสิริมงคล อย่างเลข 1 ,6 , 8 หรือ  9 

จัดตกแต่งตามธาตุ

โหราศาสตร์จีนตามหลักฮวงจุ้ยบ้าน จะจัดวางตกแต่งทุกสิ่งรอบตัวด้วยการอิงตามธาตุ และทิศทางต่างๆ ดังนั้นการจัดฮวงจุ้ยบ้านรับทรัพย์ เสริมโชค เสริมลาภให้กับคนอยู่อาศัยในบ้าน ก็ควรทำตามระบบธาตุ ในการปรับฮวงจุ้ยบ้านขั้นสูง ซินแสจะมีการเสริมธาตุที่ดีให้ตรงกับธาตุของเจ้าของบ้าน หรือให้ตรงแต่ละบุคคล 

  • ทิศเหนือ : ทิศธาตุน้ำ ควรตกแต่งด้วยน้ำพุ หรือวัตถุทรงกลม ที่มีความโค้งมน มีความแวววาว ใช้สีน้ำเงิน สีฟ้า สีขาว สีเงิน สีทอง สีเทา สีดำ ห้ามตกแต่งบ้าน สีครีม สีเหลือง สีส้ม สีโอรส สีน้ำตาล 
  • ทิศใต้ : ทิศธาตุไฟ ประดับตกแต่งด้วยวัตถุทรงกระบอก ทรงสูง ทรงปิระมิด ตกแต่งด้วยต้นไม้ ดอกไม้ ใช้สีเขียว สีชมพู สีแดง ห้ามตกแต่งบ้าน สีน้ำเงิน สีฟ้า สีเทา สีดำ 
  • ทิศตะวันออก และ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ : ทิศธาตุไม้ ตกแต่งด้วยน้ำพุ ต้นไม้ วัตถุทรงสูง ใช้สีน้ำเงิน สีฟ้า สีเขียว สีเทา สีดำ ห้ามตกแต่งบ้าน โลหะ สีเงิน และสีทอง 
  • ทิศตะวันตก และตะวันตกเฉียงเหนือ : ทิศธาตุทอง ตกแต่งด้วยโลหะ เซรามิก เครื่องปั้นดินเผา ทรงกลม มีความแวววาว สีน้ำตาล สีเงิน สีทอง สีครีม สีเหลือง สีส้ม สีโอรส ห้ามตกแต่งบ้าน สีแดง และ สีชมพู
  • ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียงใต้ : ทิศธาตุดิน ตกแต่งด้วยเซรามิก เครื่องปั้นดินเผา สีครีม สีเหลือง สีส้ม สีน้ำตาล สีชมพู สีแดง สีโอรส ห้ามตกแต่งบ้าน สีเขียว 

 

รูปปั้นสิ่งมงคล 

ควรมีรูปปั้นที่เป็นมงคล เช่น รูปปั้นฮกลกซิ่ว (ความมั่งคั่งร่ำรวย และโชคลาภ) รูปปั้นเด็ก (ความสุข ความสดใส พลังงาน ความสมบูรณ์) รูปปั้นมังกร (ความยิ่งใหญ่ อำนาจ บารมี)  รูปปั้นเต่า (อายุยืนยาว)  รูปปั้นนกอินทรีย์ (ตำแหน่งหน้าที่การงาน) จัดวางตกแต่งในห้องรับแขก เพื่อเสริมบ้านฮวงจุ้ยในด้านต่างๆ ทั้งด้านการเรียกทรัพย์ เรียกโชคลาภ เงินทอง ความมีอายุยืน ความสุขสมบูรณ์แก่คนในบ้าน 

 

ของประดับเติมความหวาน

ทริคของการจัดบ้านเพื่อเติมความหวานให้กับคู่รัก ให้แต่งประดับด้วยของฝาก ของที่ระลึก หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ซื้อตอนมีทริปด้วย ช่วงฮันนีมูน หรือแม้แต่ของที่ทั้งสองฝ่ายชอบ เพื่อเป็นการระลึกถึงความสุข และเวลาดีๆที่มีร่วมกัน แขวนกระดิ่งลมตามระเบียงเพื่อดึงดูดสิ่งมงคลเข้าบ้าน หรือตกแต่งด้วยสีชมพู ชมพูอมส้ม เสริมรักให้หวานและมั่งคง

ห้องน้ำ 

  • ประตูห้องน้ำ ควรปิดประตูห้องน้ำเสมอ เพื่อปิดรับพลังงานไม่ดี รวมไปถึงกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และเชื้อโรคไหลเวียนภายในตัวบ้าน บ้านตามหลักฮวงจุ้ยที่ดี ควรมีห้องน้ำในมุมหลบ และต้องปิดประตูห้องน้ำไว้เสมอ หรืออาจนำมู่ลี่มาติดหน้าประตูห้องน้ำ 
  • กระจก กระจกในห้องน้ำต้องสะอาดอยู่เสมอ 
  • ห้ามมีอะไรอุดตันในห้องน้ำเด็ดขาด 
  • ห้ามแต่งห้องน้ำด้วยสีแดง และสีทอง ส่งผลกระทบความรักความสัมพันธ์ และคนโสดยิ่งหาคู่ยาก
  • ห้องน้ำไม่ควรอยู่ติดกับห้องครัว เพราะห้องน้ำและห้องครัวเป็นธาตุไฟทั้งคู่ ถ้ารื้อแก้ไม่ได้ ก็แก้ไขโดยการย้ายสุขภัณฑ์ทุกชิ้นไปอยู่ตรงข้ามกับผนังที่ติดกับห้องครัว 

ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นการจัดบ้านตามฮวงจุ้ยที่สามารถปรับเปลี่ยนได้เองง่ายๆ ที่นอกจากจะได้จัดบ้านให้น่าอยู่ มีสุขอนามัยที่ดีแล้ว ยังช่วยส่งเสริมเรื่องความเป็นสิริมงคล โชคลาภ และโภคทรัพย์ ให้คนอยู่อาศัยสุขสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เสริมสิริมงคลภายนอกด้วยการจัดบ้านฮวงจุ้ยแล้ว เพิ่มเติมด้วยประพฤติตนในศีลในธรรม เพื่อเสริมสิริมงคลภายใน ส่งเสริมฮวงจุ้ยทั้งทางวัตถุและจิตใจไปด้วยกัน ให้คนในบ้านมีความสุขสมบูรณ์อย่างแท้จริง 

 

ชุดบอดี้สูท หรือ บอดี้สูท (bodysuit) ชุดแต่งกายแฟชั่น ที่สาวๆหลายคน มักจะมีไว้ประจำตู้เสื้อผ้า 1 ตัว เป็นอย่างน้อย โดยเฉพาะสาวๆสายแฟ ซึ่งก็ไม่แปลกใจถ้าผู้ชายทั้งหลายอาจจะไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้สักเท่าไร ว่าชุดบอดี้สูทเป็นยังไง แต่ถ้าเคยเห็นชุดบอดี้สูทแรกเกิด ที่เป็นชุดเดียวกันทั้งตัวแล้วมีกระดุมป๊อกแป๊กไว้ติดด้านล่าง ไว้ใส่ให้เด็กแรกเกิดหรือชุดที่ใส่เด็กแบเบาะ ก็อาจจะเคยเห็นหรือนึกออกกันบ้าง 

แต่หลังจากที่มีข่าวๆหนึ่งที่เกี่ยวกับผู้มีชื่อเสียงท่านหนึ่ง และเป็นที่สนใจของใครหลายคนๆ คาดว่าน่าจะมีทั้งหญิงและชายรู้จักชุดบอดี้สูทกันมากขึ้นแน่ๆ และจากที่ถกเถียงกันว่าชุดชนิดนี้เป็นแบบไหน มีกี่แบบกันแน่ ถึงได้มีประเด็นในข่าวขึ้นมา ฉะนั้นเราจะมาทำความรู้จักกับชุดบอดี้สูทกันในบทความนี้ว่า ชุดบอดี้สูทคืออะไร ชุดบอดี้สูทผู้หญิงมีกี่แบบให้เลือกใช้ 

ชุดบอดี้สูท คือชุดที่สวมใส่แล้วกระชับ รัดรูปพอดีตัว เน้นบริเวณส่วนโค้งเว้าของร่างกาย ทำให้ดูสวยงาม และช่วยให้ผู้สวมใส่รู้สึกมั่นใจในรูปร่าง โดยชุดจะเป็นผ้าผืนเดียวกัน โดยส่วนใหญ่มักจะใช้ผ้าที่มีความยืดหยุ่น เช่น ผ้าสแปนเด็กซ์  ผ้าคอตตอน นำมาตัดเย็บเป็นชุดคล้ายกับชุดว่ายน้ำวันพีซ โดยอาจใช้ผ้าชนิดใดชนิดหนึ่ง หรืออาจนำมาผสมกัน เช่น ใช้ผ้าคอตตอนผสมกับผ้าสแปนเด็กซ์ เพื่อให้ความสัมผัสสบาย 

แฟชั่นบอดี้สูทเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆยุคนี้ เพราะประโยชน์ของบอดี้สูทนั้น คือการที่สามารถจับคู่กับเสื้อสูท กระโปรง หรือกางเกงได้หลายสไตล์ ทั้งกางเกงขาสั้น กางเกงขายาว ใส่บอดี้สูทเดี่ยวๆ หรือสวมเสื้อคลุม คาร์ดิแกน แจ็คเก็ตหนัง หรือทับด้วยสูทเบลเซอร์ ได้ทั้งลุคเท่ เปรี้ยว เฉี่ยว แซ่บ จะใส่ทำงานแบบสุภาพ หรือใส่เที่ยวในวันสบายๆก็เฟียซทั้งนั้น

กำเนิดชุดบอดี้สูท

ชุดบอดี้สูท ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1950 โดย Claire McCadall ซึ่งเป็นนักออกแบบแฟชั่น ได้เข้าสู่โลกแฟชั่นของสหรัฐอเมริกา และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เมื่อถูกสวมใส่โดย Betty Page นางแบบแห่งยุคนั้น และยังปรากฏบนหน้าปกนิตยสารที่มีชื่อเสียงของปี1960 อย่าง Playboy ที่สวมใส่โดย “Playboy Bunny”  นางแบบของแบรนด์นิตยสารที่เป็นเด็กผู้หญิง

เมื่อภาพยนตร์เรื่อง Wonder Woman ซึ่งนำแสดงโดย ลินดา คาร์เตอร์ ที่ได้สวมใส่ชุดบอดี้สูท และถูกฉายทางโทรทัศน์ ในช่วงปี 1976 และ 1979  ก็ยิ่งทำให้ชุดบอดี้สูทเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

จนกระทั่งปี 1980 – ​​1990  ดีไซเนอร์แฟชั่น Azzedine Alaia และ Donna Karan ได้นำชุดบอดี้สูทมาใช้ในวงการแฟชั่น โดยดัดแปลงเป็นชุดยูนิเซ็กส์ ที่สามารถใส่ได้ทุกเพศ เป็นสไตล์บอดี้สูทคอเต่า และเสื้อเชิ้ตแขนสั้น ที่ใส่กับกางเกงยีนส์เอวสูง แล้วให้ความคลาสสิค เป็นที่นิยมมากในยุคนั้น และยังคงส่งต่อมาจนถึงยุคปัจจุบัน 

 

ปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่า ชุดบอดี้สูทจะมี 2 ชนิด คือแบบที่เป้าเย็บติดกันแบบกางเกงใน และแบบเป้ามีกระดุมให้แกะออกได้ ซึ่งเสื้อบอดี้สูทแฟชั่นก็มีการผลิตออกมาให้มีหลากหลายมากขึ้น เพื่อให้เลือกใส่ และมิกซ์ แอนด์ แมทช์ ได้มากขึ้น เช่น

ชุดบอดี้สูทสายเดี่ยว เป็นบอดี้สูทที่พบได้ทั่วไป และแทบจะเรียกได้ว่า เป็นบอดี้สูทแฟชั่นรุ่นแรกๆ มีลักษณะคล้ายเสื้อกล้าม หรือเสื้อสายเดี่ยว เพียงแต่การใส่ชุดบอดี้สูท จะถูกทับด้วยชิ้นล่าง เช่น กางเกง หรือกระโปรงทับเสมอ ซึ่งสามารถนำมา mix & match ได้หลายลุค หลายกาลเทศะ

ชุดบอดี้สูทแขนยาว เป็นบอดี้สูทที่นักบัลเล่ต์ หรือนักยิมนาสติกนิยมใส่ เพราะบอดี้สูทจะให้ความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวร่างกาย โดยชุดจะมีลักษณะเป็นแขนยาว หรือแขนสามส่วน 

ชุดบอดี้สูทครึ่งตัว มีลักษณะคล้ายกับชุดว่ายน้ำวันพีช คือท่อนบนอาจจะเป็นสายเดี่ยว หรือมีแขน หรือเป็นบอดี้สูดเปิดหลัง บอดี้สูทคอกลม คอเต่า แต่ท่อนล่างจะคล้ายกับกางเกงใน ต้องสวมกางเกงหรือกระโปรงทับ 

ชุดบอดี้สูทเต็มตัว จะต่างจากบอดี้สูทครึ่งตัวตรงที่ เป็นบอดี้สูทเต็มตัว ที่มีท่อนล่างเป็นกางเกงขายาวรัดรูป โดยท่อนบนอาจเป็นแขนสั้น หรือแขนยาวก็ได้ ถ้าจะให้เห็นภาพ ก็คล้ายกับชุดที่ นาตาชา โรมานอฟ สวมใส่ในหนังซุปเปอร์ฮีโร่มาร์เวล

ชุดบอดี้สูทลูกไม้ เป็นการนำผ้าลูกไม้มาเพิ่มความหวานแต่เซ็กซี่ ให้กับชุดบอดี้สูทมากขึ้น ซึ่งมีทั้งแบบบอดี้สูทสายเดี่ยว แขนสั้น แขนยาว และการสวมเป็นชุดชั้นใน 

ชุดบอดี้สูทเข้าห้องน้ำยากไหม

หลายคนสงสัยว่าใส่ชุดบอดี้สูทฉี่ยังไง เพราะชุดมีลักษณะแบบชุดว่ายน้ำวันพีซ กว่าจะถอดได้ในแต่ละครั้ง นับว่ายากและลำบากพอควรเลยทีเดียว 

ชุดบอดี้สูทถูกตัดเย็บให้มีลักษณะคล้ายชุดว่ายน้ำ วิธีใส่ชุดบอดี้สูท หรือการจะถอดก็จะเหมือนกับการใส่ชุดว่ายน้ำเลย เพราะชุดจะมีท่อนล่างเป็นขาเว้าหรือขาสั้น ซึ่งบางรุ่นอาจมีการเย็บปิดเป้า เมื่อจะเข้าห้องน้ำในแต่ละครั้ง จะต้องถอดชุดจากข้างบนลงเหมือนถอดชุดว่ายน้ำ ซึ่งจะค่อนข้างใช้เวลา แต่ถ้าเร่งรีบ หรือไม่สะดวกใจจะถอดทั้งชุด แล้วเป็นกรณีถ่ายเบา อาจใช้วิธีแหวกบริเวณเป้ากางเกง แต่ต้องอาศัยความชำนาญพอสมควร ไม่เช่นนั้นอาจจะเลอะเปรอะเปื้อนได้ แต่ในกรณีถ่ายหนัก อย่างไรก็ต้องถอดทั้งชุด จากบนลงล่างอยู่ดี ทำให้โป๊ทั้งตัว ดังนั้น ก่อนที่จะทำธุระส่วนตัว จะต้องต้องมั่นใจว่าอยู่ในห้องหรือบริเวณที่มิดชิด 

สำหรับรุ่นที่มีกระดุมบริเวณเป้ากางเกง ทั้งที่เป็นแบบกระดุมสแน็ปหรือตะขอ ซึ่งออกแบบมาให้เปิด-ปิดบริเวณเป้า เพิ่มความสะดวกต่อการถอดง่ายขึ้น ทำให้ตอบโจทย์เมื่อเวลาต้องเข้าห้องน้ำ โดยไม่จำเป็นต้องถอดชุดทั้งหมด จากบนลงล่าง แต่ก็ต้องใช้ 2 มือในการจับกระดุม เพื่อถอดและสวมใส่อยู่ดี จึงนับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่สามารถที่จะทำธุระส่วนตัวในที่โล่งแจ้งได้อย่างแน่นอนสำหรับสาวๆ 

 

ชุดบอดี้สูทใส่ว่ายน้ำได้ไหม 

แม้ว่าชุดบอดี้สูทจะตัดเย็บออกมาให้มีลักษณะเหมือนกับชุดว่ายน้ำ แต่ผ้าที่ใช้จะแตกต่างกัน ไม่สามารถใส่ว่ายน้ำได้ ยกเว้นบอดี้สูทรุ่นที่ใช้ผ้าชนิดเดียวกับชุดว่ายน้ำ ที่เริ่มผลิตออกมาให้สามารถใส่เที่ยวและใส่ว่ายน้ำได้ในตัวเดียวกัน แต่ก็ต้องดูเนื้อผ้าให้ดี ถ้าไม่อยากดูโป๊จนแทบเหมือนไม่ใส่อะไรเลยเวลาลงว่ายน้ำ 

 

เข้าเดือนธันวาคม อีกไม่นานก็จะถึงวันคริสต์มาสและวันปีใหม่กันอีกแล้ว กล่าวได้ว่าเดือนธันวาคม เป็นเดือนแห่งเทศกาลความสุขที่ใครหลายๆคนชื่นชอบและรอคอย เพราะเต็มไปด้วยการเฉลิมฉลอง มีการตกแต่งสถานที่สวยงาม เสียงเพลงแห่งความสุข และแสงสีของไฟประดับ รวมไปถึงการจัดปาร์ตี้สังสรรค์ต่างๆ โดยเฉพาะการจับของขวัญที่เป็นไฮไลท์ของงานและแทบจะขาดไม่ได้เลย 

 

ไม่ว่าจะเป็นงานคริสต์มาสหรือปีใหม่ เมื่อมีการจับฉลากของขวัญ ไม่ว่าจะเป็นการจับฉลากของขวัญในกลุ่มเล็กๆ หรือจำนวนคนกลุ่มใหญ่ แต่..เบื่อไหม กับการจับฉลากของขวัญปีใหม่แบบเดิมๆ หลีกหนีความจำเจ มาดูไอเดียเก๋ๆในการเล่นจับฉลาก เพื่อนำไปใช้เทศกาลคริสต์มาสหรือปีใหม่ที่จะถึงนี้กันดีกว่า 

1.ตีมของขวัญจับฉลากแบบกล่องสุ่ม 

ช่วงที่ผ่านมา “กล่องสุ่ม” ได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง ทั้งกล่องสุ่มของกิน กล่องสุ่มเครื่องสำอาง กล่องสุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ ฮอตฮิตติดชาร์จจนเป็นที่พูดถึง เราเลยโหนกระแสกล่องสุ่ม และนำมาใช้เป็นไอเดียการจับของขวัญเสียเลย ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ทั้งในการทำเป็นของขวัญจับฉลากครอบครัว ของขวัญจับฉลากออฟฟิศ โดยมีการกำหนดเรทราคาขึ้นมา อาจกำหนดของขวัญจับฉลาก 300 บาท ของขวัญจับฉลากงบ 500 บาท จากนั้นเราก็ไปช็อปและรวบรวมลงกล่องใส่ของขวัญ เหมือนกล่องสุ่มที่กำลังฮิต ไอเดียนี้จะทำให้เราสนุกที่จะหาของขวัญจับฉลากมากขึ้น ส่วนคนจับได้ของเราก็ได้ลุ้นและสนุกขำขัน เมื่อเปิดกล่องแล้วเจอของขวัญแบบจุใจ

2. จับของขวัญตามตัวอักษร

น่าจะมีใครหลายคนเคยเล่นกันมาแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่อาจยังไม่เคยเล่นการจับฉลากแบบนี้มาก่อน วิธีนี้เป็นการจับฉลากโดยการเสนอตัวอักษร จะเป็นตัวอักษร ก-ฮ หรือ ตัวอักษร A-Z แล้วทำเป็นฉลากจับของขวัญด้วยการเขียนตัวอักษรอย่างละ 1 ตัวลงไปในกระดาษ เช่น เขียน ก , ข , …จนถึง ฮ แล้วม้วนหรือพับกระดาษ จากนั้นใส่ภาชนะอะไรก็ได้เพื่อให้ทุกคนจับ หากคุณจับได้อักษร น หนู คุณก็ต้องหาของขวัญจับฉลาก น หนู ขึ้นต้น เช่น นาฬิกา น้ำหอม หรือจับได้ของขวัญอักษร อ อ่าง  เช่น ไอแพด  (ตุ๊กตา)แอลโล่  เป็นต้น ไอเดียนี้จะทำให้ของขวัญมีความหลากหลาย อีกทั้งยังสโคปให้แคบลงสำหรับคนที่ไม่รู้จะจับของขวัญอะไรดี 

3.จับฉลากจากการแจ้งเตือน 

โดยวางมือถือของทุกคนวางไว้บนโต๊ะ หากเครื่องใครมีการแจ้งเตือนเข้ามาก่อนคนแรก คนนั้นจะเลือกของขวัญเป็นคนสุดท้าย และมือถือใครที่มีข้อความหรือการแจ้งเตือนเข้ามาเป็นคนสุดท้าย ก็จะได้เลือกของขวัญที่อยากได้เป็นคนแรก 

4.จับฉลากตามธีมสี

กำหนดสีแบบคุมโทนเลย ว่าให้เลือกของขวัญจับฉลากสีอะไร แล้วก็นำของขวัญที่มาจับต้องเป็นสีตามธีม เช่น กำหนดให้ใช้กล่องของขวัญสีขาว ก็ต้องสีขาวทั้งหมด อาจคุมโทนสีทั้งการจัดงาน สีของตกแต่ง สีการแต่งตัว สีของขวัญ ภาพรวมออกมาก็จะดูดี เพราะเป็นโทนเดียวกัน ดูเป็นการวางแพลนมาแล้วอย่างดี      

5.จับของขวัญสุดฮา

อาจกำหนดให้ห่อของขวัญจับฉลากตลกๆ ดูเป็นภาพลวงตา ให้เข้าใจผิดจากรูปร่างหีบห่อข้างนอก เช่น นำของขวัญประกอบกันเป็นรูปร่าง ที่เมื่อห่อแล้วมองเห็นเป็นรูปพัดลม แต่เมื่อแกะออก ของข้างในกลับเป็น ไม้กวาด ที่ตักขยะ และแปรงขัดห้องน้ำ ที่ประกอบกันให้ออกมาเป็นภาพลวงตาดูผิดเพี้ยนไป เป็นต้น ทำให้การจับฉลากได้ทั้งลุ้นทั้งฮา 

6.กำหนดธีมของขวัญราคาเดียวกัน 

การกำหนดราคาของขวัญจับฉลาก เป็นการลดความเหลื่อมล้ำและแฟร์ต่อทุกคน เพราะบางคนนำของราคาถูกมาจับ ในขณะที่บางคนนำของขวัญแบรนด์เนมมาจับ ดังนั้นกำหนดราคาไปเลยจะดีกว่า อาจกำหนดราคาของขวัญจับฉลาก 200 บาท ขึ้นไป หรือเรทราคาของขวัญจับฉลาก 500 บาท เป็นต้น 

7.จับฉลากเบอร์โทร 

นำเบอร์โทรของทุกคนมาจับฉลาก ใครได้เบอร์ไหน ก็โทรไปหาเบอร์นั้น เมื่อรู้ว่าใครเป็นเจ้าของเบอร์โทร ก็ต้องนำของขวัญไปให้คนนั้น ได้ทั้งของขวัญ ได้ทั้งแลกเบอร์โทรกัน ดีไม่ดี อาจได้แฟนในอนาคตด้วย 

8.จับฉลากปาโป่ง 

เกมงานวัดก็มา…เขียนชื่อทุกคนลงในฉลาก แล้วใส่ในลูกโป่ง ให้ทุกคนปาโป่งเหมือนงานวัด ใครปาลูกไหนแตก ก็ให้ของขวัญกับคนที่มีชื่อในลูกโป่งที่ปาแตก 

9.ของขวัญธีม Together

“Together” แน่นอนว่าต้องมากกว่า 1 ชิ้น โดยจะมีกี่ชิ้นก็ได้ แต่ต้องอยู่ในเซ็ตการใช้งานด้วยกัน หรือของที่ต้องทำงานร่วมกัน เช่น จอยเกมส์ หูฟังเกมส์ ถุงมือเกมส์  / ไอแพด เคส หูฟัง / หม้อต้มกาแฟ เครื่องบดกาแฟมือหมุน แก้วกาแฟ  / รองเท้าผ้าใบ ถุงเท้า น้ำยาซักแห้งสำหรับรองเท้า  เป็นต้น ทำให้ของขวัญดูเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และการเลือกซื้อก็ง่าย เพียงแค่คิดว่าจะซื้ออะไรเป็นตัวหลัก 

10.ธีมของขวัญ เดลิเวอรี่

เริ่มจากการเขียนชื่อพร้อมที่อยู่เป็นฉลาก ใครจับฉลากได้ใคร ก็หาซื้อและจัดส่งไปให้ตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในฉลาก เป็นการส่งของขวัญแบบใช้ ขนส่งเป็นซานต้าคลอส ส่งของขวัญแบบ เดลิเวอรี่ ไอเดียการเล่นแบบนี้ก็เหมาะกับช่วงสถานการณ์โควิด-19 อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะสามารถเล่นแลกของขวัญกันได้ตามมาตรการ social distance 

 

11.จับฉลากแบบ Secret Santa 

การเล่น Secret Santa มีหลากหลายแบบ แล้วแต่ใครจะนำไปปรับใช้ โดยเราจะนำที่เคยเล่นมายกตัวอย่าง 

 

  • Secret Santa แบบฉบับทางยุโรป จะเล่นโดยกำหนดวันที่จะเล่นขึ้นมาก่อน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวันคริสต์มาสอีฟและวันคริสต์มาส แต่บางแห่งก็อาจกำหนดวันอื่นตามสะดวก แต่ภายในเดือนธันวาคม เมื่อกำหนดวันได้แล้ว ก็จะเขียนชื่อทุกคนทำเป็นฉลาก แล้วให้จับฉลากรายชื่อ ใครจับได้ชื่อคนไหน ก็ต้องไปเลือกหาซื้อของขวัญที่คิดว่าน่าจะถูกใจ หรือเป็นของที่คนนั้นอยากได้ แล้วนำมาให้ในวันที่กำหนดเล่นเกมพร้อมกัน (ปัจจุบันมีแอปซีเคร็ทซานต้าหลายเวอร์ชั่นให้เลือกโหลด เพื่อจับฉลากแล้ว โดยให้คนใดคนหนึ่งเป็นผู้ใช้แอปแทนการจับฉลาก ทำให้สะดวกหากอยู่กันคนละสถานที่ หรือช่วงโรคระบาดแล้วต้องทำ social distance หรือ work from home)  

 

  • Secret Buddy จะเล่นเหมือนกับ Secret Santa เพียงแต่หลายๆคนอาจเรียกว่าการเล่นบัดดี้ นิยมเล่นในวันคริสต์มาสเช่นกัน แต่ก็มีการนำไปเล่นในกิจกรรมอื่นๆด้วย เช่น การเล่นบัดดี้ในโรงเรียนเพื่อเพิ่มความสามัคคีของนักเรียน การเล่นบัดดี้ในรั้วมหาวิทยาลัยในช่วงรับน้องใหม่ ซึ่งจะเป็นการจับฉลากรายชื่อระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง 

 

  • Secret Santa บอกใบ้ วิธีการจับฉลากรายชื่อเหมือนกัน เพียงแต่นำของขวัญไปซ่อนในจุดที่ห้ามบอกใคร แล้วเขียนคำบอกใบ้สถานที่ซ่อนของขวัญให้กับคนที่เราจับได้ ให้เขาแก้ปริศนาคำใบ้ให้ได้ เพื่อจะได้เจอของขวัญที่เรานำไปซ่อนไว้ 

 

  • Secret Santa ของขวัญซ่อนเงิน ซึ่งไอเดียนี้นำมาจากการกำเนิดประเพณีนำถุงเท้าแขวนหน้าเตาผิง ที่เซนต์นิโคลัส นักบุญเมืองไมรา ปีนปล่องไฟเพื่อนำเงินไปให้เด็กหญิงยากจนที่บ้านหลังหนึ่ง แล้วถุงเงินกลับกระเด็นไปตกลงในถุงเท้า เมื่อเด็กหญิงตื่นมาแล้วจะใส่ถุงเท้าแล้วพบถุงเงิน ก็ได้แพร่ข่าวนี้ออกไป ทำให้ทุกคนที่ได้ข่าวก็นำถุงเท้าไปแขวนหน้าเตาผิง เพื่อจะได้ของขวัญแบบเด็กหญิงบ้าง เกม Secret Santa ของขวัญซ่อนเงิน จึงเป็นการเล่นเลียนแบบ โดยเล่นจับฉลากรายชื่อเหมือนกัน แต่ทุกคนจะต้องนำถุงเท้า(หรืออุปกรณ์อื่นๆ เช่น กระเป๋า / เป้ ฯลฯ ที่สามารถใส่ของได้) ที่ติดชื่อตนเอง แขวนไว้ตรงไหนก็ได้ภายในบริเวณที่จัดเล่นเกมส์ ส่วนคนที่จับได้ชื่อใคร ก็นำของขวัญไปใส่หรือวางตรงกับถุงเท้า(อุปกรณ์ที่แขวนไว้)ของคนนั้น โดยห้ามให้เจ้าของถุงเท้าเห็นเด็ดขาด แต่จะเฉลยหลังจากคนนั้นแกะของขวัญแล้ว 

ทั้ง 11 ไอเดียนี้ มีทั้งการเล่นแบบเก่าและใหม่ รับรองว่าเล่นได้สนุกและไม่ตกเทรนด์ ใครถูกใจแบบไหนก็สามารถนำไปเล่นตามได้เลย หรือจะนำไปปรับ นำไปประยุกต์ให้เหมาะสมกับกลุ่ม เพื่อฉีกการจับฉลากของขวัญแบบเดิมๆ และเพิ่มสีสันไม่ให้ปีใหม่นี้เงียบเหงา จะเห็นได้ว่า สามารถสนุกได้แม้จะไร้ของมึนเมา ขอให้ทุกคนสนุกกับไอเดียที่เรานำมาฝาก และได้ของขวัญถูกใจกันถ้วนหน้าค่ะ

 

 

เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทยไปแล้วถึง 27จังหวัดและกำลังมุ่งหน้าสู่ปริมณฑลฯ และอาจต่อด้วยกรุงเทพฯ จากฤทธิ์ของพายุเตี้ยนหมู่ที่ทางประเทศจีนเรียกขนานนามให้ชื่อพายุลูกนี้ ซึ่งมีความหมายว่าเจ้าแม่แห่งสายฟ้า แม้ว่า ณ ตอนนี้อาจดูเหมือนว่าเจ้าแม่สายฟ้าจะเริ่มอ่อนกำลังลง แต่ก็ยังส่งผลให้น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง หลายร้อยพันบ้านเรือนต้องประสบกับความเสียหาย เดือดร้อนไปทั่ว เรื่องอุทกภัยเราคงจะห้ามไม่ได้ แต่สำหรับผู้อยู่ในพื้นที่ที่น้ำยังมาไม่ถึงหรืออาจเป็นพื้นที่สุ่มเสี่ยง สามารถป้องกันความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ โดยการเตรียมตัวก่อนน้ำมาถึงพื้นที่ดังต่อไปนี้ 

1.ติดตามข่าวสารสถานการณ์และเฝ้าระวังภัย ติดตามความเป็นไปได้อย่างใกล้ชิด โดยลักษณะการเตือนภัยมี 4 ประเภท 

1.1 การเฝ้าระวังน้ำท่วม มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดน้ำท่วม และอยู่ในระหว่างสังเกตการณ์ 

1.2 การเตือนภัยน้ำท่วม เตือนภัยจะเกิดน้ำท่วม 

1.3 การเตือนภัยน้ำท่วมรุนแรง 

1.4 ภาวะปกติ พื้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม หรือเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ 

 

ควรรู้หรือจดหมายเลขติดต่อหน่วยงานต่างๆไว้เผื่อกรณีต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งหมายเลขที่ควรรู้และมีไว้ 

 

สายด่วนควรรู้

  • 1669  บริการแพทย์ฉุกเฉินและจัดส่งโรงพยาบาล ศูนย์นเรนทร 
  • 1784  สายด่วนนิรภัย 
  • 192 ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
  • 1111 กด 5  (ศปภ.) ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย สายด่วนรับแจ้งเตือนภัย 154 คู่สาย 24 ชั่วโมง 
  • 022485115 ขอความช่วยเหลือจากเหตุน้ำท่วม (พื้นที่กรุงเทพฯ) 
  • sms 4567892 ฟรี สำหรับมือถือทุกเครือข่าย แจ้งเหตุหรือขอความช่วยเหลือเหตุน้ำท่วม 
  • 1182 กรมอุตุนิยมวิทยา 
  • 191 สายด่วน
  • 1193 กรมตำรวจทางหลวง
  • 1356 ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม 1130 การไฟฟ้านครหลวง
  • 1323 กรมสุขภาพจิต 

หากพักอาศัยอยู่ในพื้นที่สุ่มเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วม ให้จัดเตรียมแผนเพื่อรับมือดังต่อไปนี้…

  • เตรียมเสบียงอาหาร น้ำสะอาด ยารักษาโรคให้มากที่สุด
  • จัดเตรียมกระเป๋ายังชีพฉุกเฉินให้เพียงพอต่อสมาชิกในบ้านอย่างน้อย 3 วีน
  • เตรียมชาร์จโทรศัพท์ให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลารวมถึงแบตสำรอง 
  • จัดเตรียมระบบไฟสำรอง เช่น ไฟฉาย เทียน ไฟแช็ค ถ่านไฟฉายให้พร้อม 
  • เก็บเอกสารสำคัญใส่ซองกันน้ำ
  • ควรมีนกหวีดติดตัวไว้เผื่อในกรณีต้องการความช่วยเหลือหรือเหตุฉุกเฉิน 
  • ใข้เทปกาวหรืออุปกรณ์ที่สามารถปิดช่องปลั๊กไฟ เพื่อป้องกันไฟฟ้าช็อต
  • ฝึกซ้อมหนีน้ำท่วม ต้องรู้เส้นทางอพยพที่ปลอดภัยที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่โกลาหลหากเกิดน้ำท่วม โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็ก สตรีมีครรภ์ ต้องเตรียมเส้นทางสำหรับเคลื่อนย้ายผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 
  • แจกแจงหน้าที่ให้สมาชิกในบ้านดูแลแต่ละส่วน เมื่อเกิดน้ำไหลบ่ามาถึง
  • หาอุปกรณ์ป้องกันน้ำเข้าบ้าน เช่น การหาถุงทรายมาวางขวางกั้นกันน้ำเข้าบ้าน เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น โดยวางกระสบทรายเป็นแนวทางน้ำไหล ให้ห่างจากที่พักอาศัยประมาณ 25 เมตร ให้ปากถุงหันไปทางบริเวณที่แห้ง 

2.สิ่งที่ควรทำเมื่อได้รับการเตือนภัยจากหน่วยงานด้านเตือนภัยน้ำท่วม 

  • หากคุณอยู่ในพื้นที่หุบเขาให้ปีนขึ้นที่สูงให้เร็วที่สุด อย่านำสัมภาระติดตัวมากเกินไป 
  • กรณีคุณอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมถึง ให้ดำเนินการตามแผนรับมือน้ำท่วมที่ได้วางแผนไว้แล้ว 
  • ปิดกั้นช่องทางน้ำที่สามารถไหลเข้าบ้านได้ให้หมดทุกช่องทาง ทั้งห้องน้ำ โถสุขภัณฑ์ ท่อน้ำทิ้งอ่างล้างจาน 
  • ปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและแก๊สให้หมด ยกขึ้นไว้ที่สูง อย่าเข้าใกล้สายไฟฟ้าและเครื่องมืออุปกรณ์ไฟฟ้าเด็ดขาด และตัดระบบไฟฟ้าในบ้านทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟฟ้าช็อตหรือไฟดูด 

3.สิ่งที่ควรทำระหว่างเกิดน้ำท่วม 

 กรณีอยู่นอกบ้าน

  • ไม่ควรเดินทางหรือขับรถตามเส้นทางน้ำไหล หรือพื้นที่ที่กำลังโดนน้ำท่วม
  • ห้ามเข้าใกล้อุปกรณ์ไฟฟ้าและสายไฟ 
  • ถอยหลังกลับไปยังทางเดิมทันทีหากรู้สึกถึงกระแสไฟฟ้า 
  • สวมเสื้อผ้าที่กระชับ ทะมัดทะแมง และมีสีสว่าง 
  • เลี่ยงการสัมผัสน้ำโดยตรง หรือควรสวมรองเท้าบูทหรืออุปกรณ์ป้องกันสิ่งสกปรกและอันตรายจากการลุยน้ำ 

กรณีอยู่ในบ้าน 

  • ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดและไม่ควรเข่าใกล้ เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าบางชนิดอาจเกิดการช็อตได้แม้จะไม่ได้เสียบปลั๊ก ห้ามใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เปียกน้ำ 
  • หากน้ำท่วมเข้าในบ้าน ก็ต้องเดินอย่างระมัดระวัง เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุจากโคลน เศษแก้ว ขยะ ของมีคม ที่ลอยมากับน้ำ 
  • ระวังสัตว์มีพิษและอันตรายที่หนีน้ำเข้ามาหลบอยู่ในบ้าน 
  • ระวังแก๊สรั่ว หากได้กลิ่นแก๊สควรอยู่ให้ห่างๆและไม่ควรสูบบุหรี่ ใช้ไฟฉายส่องดูเพื่อตรวจสอบความเสียหาย 
  • หากต้องการใช้เตาย่างหรืออุปกรณ์ที่มีควันไฟ ควรใช้นอกบริเวณบ้าน เพราะควันที่เกิดจากอุปกรณ์เหล่านี้เป็นคาร์บอนมอนออกไซด์ที่มีพิษและไม่ควรใช้ในบ้าน 

 

4.วิธีรับมือหลังเกิดน้ำท่วม 

  • ดูแลสภาพจิตใจคนในครอบครัว แน่นอนว่าหลังจากอุทกภัยจะมีการสูญเสีย ดังนั้นควรดูแลสภาพจิตใจคนในครอบครัวและคนรอบข้าง พูดคุยให้กำลังใจเพื่อให้มีการปรับสภาพจิตใจให้ดีขึ้น ไม่ทำการต่อว่าหรือคาดหมายโทษกับเด็กๆและสัตว์เลี้ยงที่ไม่เชื่อฟัง เพราะไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ หรือสัตว์ต่างๆ ก็มีการตระหนกตื่นกลัวได้เหมือนกันหมด 
  • ตรวจสภาพบ้านหาร่องรอยความเสียหาย ตรงไหนชำรุด มีรอยรั่ว จะได้ทำการซ่อมแซม ตรวจบริเวณรอบบ้านและในบ้านให้ทั่วถึงเผื่อมีสัตว์อันตรายเข้ามาหลบภัยหรือลอยมากับกระแสน้ำ จะได้ทำการเรียกผู้เชี่ยวชาญมาจัดการพาออกไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ 
  • เก็บกวาดและทำความสะอาดบ้าน โดยสามารถใช้น้ำยาซักผ้าขาวผสมน้ำสะอาดในสัดส่วน 1:9 (น้ำยาซักผ้าขาว : น้ำสะอาด) 

 

เห็นได้ว่าภัยธรรมชาตินั้นน่ากลัวกว่าที่คิดและเราก็หลีกหนีภัยธรรมชาติไม่ได้ ตราบใดที่ยังคงอาศัยอยู่ในโลกใบนี้ จึงต้องมีการยอมรับและปรับตัวให้ได้ทุกสถานการณ์ แต่จะดีกว่า..หากเราหันมาใส่ใจและให้ความร่วมมือกันดูแลสิ่งแวดล้อม ลดขยะที่ไม่จำเป็น ใช้ไฟฟ้าเท่าที่เหมาะสม ฯลฯ เชื่อว่าทุกคนรู้ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง เพียงแค่หันกลับมาและลงมือทำอย่างจริงจังเสียที อย่าลืมว่ามนุษย์เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่อาศัยอยู่ในโลกใบนี้ หากมนุษย์อยู่ร่วมกับธรรมชาติไม่ได้ ธรรมชาติอาจกำจัดเราเหมือนที่เรากวาดขยะให้พ้นบ้านฉันใดก็ฉันนั้น 

 

ถ้าเราไปเดินห้างสรรพสินค้าหลายๆแห่ง เข้าพักโรงแรมระดับ5ดาว ไปหาหมอที่โรงพยาบาล หรือเคยเข้าโรงงานอุตสาหกรรม จะเห็นว่าพื้นเงาวาว เรียบลื่น ดูสวยงาม คิดว่าหลายๆคนคงจะรู้จักชนิดพื้นแบบนั้นแล้ว แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเป็นการเคลือบพื้น “พื้นEpoxy” และ “พื้นPU

หรือบางคนก็เรียกรวบยอด pu epoxy รวมกันไปเลย แล้วพื้นอีพอกซีคืออะไร แตกต่างจากพื้นทั่วไปยังไง และดีอย่างไร นั่นสิ! สงสัยเหมือนกันใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นเรามารู้ข้อมูลพร้อมกันเลยค่ะ 

 

อีพอกซี (Epoxy) หรือ โพลีอีพอกไซด์ เป็นพลาสติกพอลิเมอร์เธอร์โมเซตติง ที่ขึ้นรูปจากปฏิกริยาจากสารสังเคราะห์ระหว่างอีพอกไซด์เรซินกับโพลีเอมีน อีพอกซี่เรซิ่นจะมีการใช้งานที่กว้างขวาง ทั้งใช้เป็นตัวประสาน ใช้เป็นวัสดุพลาสติกเสริมแรงไฟเบอร์ แต่ในที่นี้เราจะเน้นในเรื่องการนำอีพอกซี่มาใช้ในงานพื้น การเคลือบพื้นและส่วนของสถานที่ ซึ่งการเคลือบพื้นอีพอกซีจะให้พื้นดูผิวมัน ไม่มีรอยต่อ สีสวย ป้องกันเชื้อรา ป้องกันไฟฟ้าสถิตได้ดี ติดตั้งได้รวดเร็ว ทนต่อแรงกระแทก ทนต่อการขัดสีและสารเคมี แต่ไม่ทนต่อตัวทำละลาย เช่น ทินเนอร์ ทาเคลือบผิวคอนกรีตเพื่อความเรียบเงาสวยงาม ทำความสะอาดง่าย สามารถทาเป็นพื้นหยาบเพื่อกันลื่นได้ สามารถเคลือบได้ทั้งพื้นเรียบและพื้นขรุขระเพื่อให้ผิวดูเรียบขึ้น เหมาะกับสถานที่ต้องการความสะอาดและไร้รอยต่อ ทำความสะอาดง่าย ปราศจากฝุ่น เช่น พื้นห้างสรรพสินค้าที่เราเดินช้อปปิ้ง พื้นโรงพยาบาล พื้นห้องยา โชว์รูม คลังสินค้า ห้องเก็บวัสดุ ที่มีการเคลื่อนไหวและกระแทกตลอดเวลา 

แต่..อีพอกซี่เรซิ่นไม่เหมาะกับการใช้งานภายนอกอาคารเพราะไม่ทนต่อแสงแดด ถ้าโดนแสงUV คุณสมบัติในสารเคมีของอีพ็อกซี่จะเสื่อมเร็ว จึงเหมาะกับการใช้งานภายในเท่านั้น มีความลื่นจึงต้องระวังในการเดินบนพื้นอีพอกซีที่เปียก มีอายุการใช้งานประมาณ 8 ปี แต่สามารถซ่อมแซมได้ง่าย โดยการขูดออกและทาทับได้เลย และก่อนทาอีพอกซีควรจะวัดความชื้นของพื้นคอนกรีตก่อน เพราะถ้าพื้นคอนกรีตมีความชื้น แล้วทาทับลงไป เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งความชื้นของพื้นจะดันขึ้นมาที่อีพอกซี่จนทำให้เกิดเป็นฟิล์มและอีพอกซีหลุดลอกออกเป็นแผ่น 

 

พื้นอีพอกซี่จะมีแบบ Epoxy Coating และ แบบปูนขัดสด หรือ Floor Hardener เป็นแบบวิธีขัดสด แล้วค่อยสาดปูนที่เป็น Floor Hardener ซึ่งเป็นปูนชนิดหนึ่งแต่เพิ่มสารที่ให้ความแกร่งและทนทานเข้าไป พื้น ทำให้หน้าปูนมีความแข็ง แล้วค่อยโค้ตติ้งทับอีกชั้น เหมือนบางห้างที่ดูพื้นแล้วเป็นสีปูนแต่มีความเรียบเงา แต่ข้อเสียคือ ด้วยความที่ floor hardener มีความแข็ง ไม่มีความยืดหยุ่น เมื่อเกิดรอยร้าวก็จะแตกได้ต่อเนื่องเลย ซ่อมแซมพื้นไม่ได้ หรือแม้แต่แบบลอฟท์ขัดสดก็เช่นเดียวกัน 

 

การเคลือบอีพ็อกซี่จะทำการโค้ตติ้งบนพื้นปูนหรือคอนกรีตอีกที epoxy coating จึงสามารถทำทีหลังได้ โดยจะต้องเตรียมพื้นผิวให้เรียบร้อย อีพอกซี่โค้ตติ้งมีความแข็งแรง ทนทานต่อกรดและด่าง และด้วยที่มีความยืดหยุ่นสูงทำให้สามารถปิดทับพื้นที่มีรอยแตก หรือทำปิดซ่อมพื้นได้ และยังทำให้เกิดความเงาสวย 

 

แต่เนื่องจาก Epoxy Coating เป็นสาร Bitumen (สารที่ได้จากการกลั่นปิโตเลียม) ที่มีองค์ประกอบสารตะกั่วปะปนอยู่ จึงควรตรวจสอบให้ดีสำหรับผู้ที่แพ้สารตะกั่วอย่างรุนแรง 

 

การใช้งาน epoxy โดยปกติจะมีสารมา 2 ส่วน เป็น พาร์ท A และ พาร์ท B มาผสมกันตามสัดส่วน และเมื่อผสมเข้าด้วยกันแล้วจะต้องใช้งานให้หมด เพราะที่เหลือจะแข็งจนนำไปใช้งานต่อไม่ได้ การเก็บก็ต้องแยกเก็บส่วน  A และ B แยกไว้ต่างหาก จะผสมเมื่อจะใช้งานเท่านั้น และควรให้ช่างผู้ชำนาญดำเนินการ หากจะทำเองก็อาจทำได้หากทำในส่วนบริเวณเล็กๆ 

 

ที่จริงพื้นอีพอกซี่จะมีด้วยกันหลายชนิด แต่ที่จะพบโดยส่วนใหญ่ก็จะมี Epoxy Coating มักจะเห็นการทำพื้นอีพ็อกซี่ในห้างสรรพสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม ลานจอดรถ โรงพยาบาล ใช้ตีเส้นจราจร และ Epoxy leveling ที่มักนิยมใช้ในสถานที่ต้องการความเรียบไร้รอยต่อ เช่น โชว์รูมรถยนต์ ห้องแลป พื้นโรงงาน พื้นโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ โรงแรมระดับ5ดาว รีสอร์ทหรู ฯลฯ 

 

Epoxy Coating Flooring สามารถทาพื้นปูนและพื้นคอนกรีตได้ทั้งเก่าและใหม่ มีความเงางาม สีสันสดใน ทำความสะอาดและดูแลง่าย เหมาะกับอุตสาหกรรมเบา และเลือกได้ทั้งผิวเรียบและผิวขลุขระ ใช้เคลือบหรือทาบนเบสที่มีความหนาน้อยกว่า 2 มิลลิเมตรลงมา ใช้ A+B แล้วทาได้เลย เหมือนเป็นการทาสี ส่วนใหญ่พื้นโรงงานepoxyราคาตามความหนาของพื้น ถ้าพื้นบางก็ถูกลงมาอีก ส่วน Epoxy self leveling คือ พื้นอีพอกซี่ที่มีความหนาในการใช้งานเกิน 2 มิลลิเมตรขึ้นไป เป็นสีที่ปรับผิวเรียบได้ด้วยตัวเอง เซ็ตตัวเองได้ทันทีเมื่อแห้งบนเบสที่ 2 มิลลิเมตรขึ้นไป เป็นที่นิยมนำมาใช้ในงานอุตสาหกรรมและอาคารบ้านเรือนอาศัย ยิ่งมีความหนาก็ยิ่งมีความแข็งแรงและราคาก็สูงตาม 

 

นอกจากนี้ยังมีชนิดพื้นโพลียูริเทนหรือพื้นPU (Polyurethane) พื้นโพลียูรีเทนคือพื้นยางสังเคราะห์ที่ใช้ทดแทนยาวธรรมชาติ เพราะพียูเป็นสารพอลิเมอร์เทอร์โมเซ็ตติ้งชนิดหนึ่ง เช่นเดียวกับอีพอกซี่ เป็นสารเคลือบผิวที่มีประสิทธิภาพสูง ส่วนใหญ่จะมีความหนา 39 มิลลิเมตร เป็นพื้นที่เหมาะในบริเวณที่ใช้งานหนัก ด้วยลักษณะหยาบ กันลื่นได้ดี มีคุณสมบัติแตกต่างจากพื้น Epoxy คือ พื้นพียูจะมีตัวล่างเป็นตัวเบสและมีหลายเลเยอร์ พื้นพียูจะป้องกันความชื้นไหลซึมผ่านฟิล์มสีจะเหมาะกับพื้นที่ต้องทนความเย็น เคลือบผิวคอนกรีตอุตสาหกรรมที่เปียกและแห้ง ห้องแช่ ห้องเย็นติดลบ ห้องโหลดสินค้า พื้นที่ต้องใช้งานหนัก เหมาะกับโรงงานอาหาร โรงงานอุตสาหกรรม งานแช่แข็ง งานห้องเย็น ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา จึงเหมาะกับสถานที่ต้องการควบคุมฝุ่นและเชื้อโรค เช่น โรงงานอุตสาหกรรมอาหารและยา ทนต่อแรงกระแทก ทนต่อสารเคมี ทำความสะอาดง่าย ด้วยความที่พื้นpuคุณสมบัติมีความแข็งแรงมากกว่าพื้นทั่วไป พื้นpuราคาต่อตารางเมตรจึงค่อนข้างสูงกว่า 

 

แล้วพื้นพียูแตกต่างยังไงกับพื้นอีพอกซี่…พื้นพียูจะมีความทนต่อแสงยูวีได้มากกว่า จึงสามารถใช้ได้ทั้งในอาคารและนอกอาคาร พื้นผิวพียูจะไม่แข็งเท่าพื้นอีพอกซี่ จัดการความชื้นได้ดีกว่า และทนทานต่อสภาพภูมิอากาศและอุณหภูมิได้แบบสุดขั้วกว่า อย่างห้องแช่แข็งที่อุณหภูมิ -30 องศาเซลเซียส  ลานสนามกลางแจ้ง แต่พื้นพียูจะยึดติดพื้นคอนกรีตได้ไม่ดีเท่า มีความหนาที่ค่อนข้างต่ำ และส่วนใหญ่โพลียูรีเทนจะเป็นตัวทำละลาย นั่นแสดงว่ามีค่า voc สูง  แต่ในขณะเดียวกันพื้นอีพ็อกซี่จะมีความต้านแรงอัดได้สูงกว่า  ถ้าเทียบกันในเรื่องของพื้นอุตสาหกรรม พื้นอีพอกซีจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับพื้นอุตสาหกรรมหนัก บริเวณที่มีจราจรหนาแน่นอย่างศูนย์ของธุรกิจประเภทโลจิสติกส์ คลังสินค้า แต่พื้นโพลียูรีเทนจะตอบโจทย์กับอุตสาหกรรมอาหาร อาทีเช่น อุตสาหกรรมอาหารที่เป็นผลิตภัณฑ์นมและชีส เพราะถ้าเลือกใช้พื้นอีพอกซีที่มักจะมีกรดแลกติกอยู่ในสภาพแวดล้อมของโรงงานประเภทดังกล่าว จะถูกกัดกร่อนและมีคราบเหลือง แต่พื้นพียูจะไม่มีปัญหานี้ หรือจะเลือกเป็นการผสมผสานระหว่างทั้งสอง แต่ต้องเลือกช่างที่ชำนาญการโดยเฉพาะเป็นผู้ทำ เพราะจะผิดพลาดขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งไม่ได้เลย หากคุณไม่อยากเสียเงินซ้ำซ้อนในการซ่อมแซมในอนาคต 

ไม่ใช่แค่เพียงพื้นห้างสรรพสินค้า หรือโรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น แม้แต่ลานอเนกประสงค์ หรือพื้นpuสนามกีฬาในร่ม เช่น สนามแบดมินตัน สนามบาสเก็ตบอล สนามฟุตซอลล์ ก็เริ่มหันมานิยมใช้เป็นพื้นยางสังเคราะห์PU หรือพื้นโพลียูรีเทน ซึ่งเมื่อก่อนบางสนามจะใช้เป็นพื้นไม้ แต่เพราะพื้นไม้ทำความสะอาดยาก ไม่ค่อยทนต่อแรงขีดข่วน และบางครั้งก็เกิดอุบัติเหตุเพราะพื้นลื่น แต่ในกรณีพื้นพียูจะช่วยเรื่องกันลื่นได้ ช่วยถนอมข้อเท้าและเข่า เพราะดูดซับแรงกระแทกได้ดี มีความแข็งแรงทนทาน และมีความสวยงาม ซึ่งยางสังเคราะห์นี้สามารถใช้ได้ทั้งในร่มและสนามกลางแจ้ง เพราะทนต่อแสงUV ได้ดี เป็นพื้นยางสังเคราะห์ที่มีคุณภาพ และทนทานกว่าพื้นยางสังเคราะห์ชนิดอื่นๆ พื้นยางสังเคราะห์ที่ทำจากยางมะตอยหรืออคริลิค จึงมีการเรียกใช้ช่างเปลี่ยนพื้นพียูกันกันมากขึ้น แน่นอนว่าการจะเปลี่ยนพื้นจะต้องให้ผู้ชำนาญและช่างที่เชี่ยวชาญทำ เพราะหากทำเองหรือไม่มีความรู้ความเข้าใจในขั้นตอนการทำมากพอ อาจประสบปัญหาตามมาได้ เช่น ทาไม่นานก็สีหลุดร่อน หรือเคลือบพื้นอีพอกซีแล้วก็บวม ต้องมีการเรียกช่างมาแก้ไข ซึ่งอาจต้องเสียค่าซ่อมแซมมากกว่าเดิม 

 

สำหรับบางคนที่อาจชอบลักษณะและคุณสมบัติของพื้นอีพ็อกซี่และพื้นพียู อยากทำพื้นที่บ้านบ้าง ถ้าที่เคยเห็นก็จะมีการทำพื้นอีพ็อกซีหรือพื้นพียูในเชิงพาณิชย์เป็นส่วนใหญ่ เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านเกม ร้านคอมพิวเตอร์ ร้านเสริมสวยหรูๆ สำนักงาน ออฟฟิศ ในส่วนราชการบางพื้นที่ และภาคเอกชนหลายแห่ง รวมไปถึงการทำพื้นโรงจอดรถที่บ้าน หรือนำไปใช้ในระบบกันซึม ใช้เพื่ออุดรอยรั่ว-พื้นกันซึมในห้องน้ำ ระบป้องกันการรั่วซึม ระบบกันซึมดาดฟ้า บริเวณในบ้าน หลังคา ชั้นใต้ดินของอาคาร บ้านเรือน โรงงาน โดยทาป้องกันไว้เผื่อรั่วซึมในอนาคต หรือทำกันซึมเพื่อซ่อมแซมปรับปรุง กันซึมมีแบบทา (coating) และแบบเป่าไฟ (membrane) โดยกันซึมแบบทาหรือโค้ดติ้งจะเป็นน้ำยาผสมอะคริลิค มีแบบทนรังสี uv ที่เหมาะกับการทาภายนอกอาคาร หลังคา ผนังด้านนอก และแบบไม่ทนรังสี uv เหมาะกับการทาภายในอาคาร หรือบริเวณที่มีฉาบปิด เช่น ห้องน้ำ แท็งค์น้ำ บ่อเก็บน้ำใต้ดิน สระว่ายน้ำ เป็นต้น 

 

แต่ในกรณีสนใจทำเป็นพื้นบ้านหรือต้องการสอบถามรายละเอียด ไม่ว่าจะราคาทำพื้นepoxyต่อตารางเมตรเท่าไร ข้อมูลเกี่ยวกับการทำพื้นยางสังเคราะห์โพลียูรีเทนราคาประหยัด ราคาอีพ็อกซี่ ทำพื้นpu ทำพื้นepoxy ก็สามารถติดต่อบริษัทรับทำพื้นอีพ็อกซี่ ซึ่งนอกจากรับทำพื้นepoxy  พื้นอีพ็อกซี่ราคามิตรภาพแล้ว ยังรับบริการทาสีอาคาร บริการงานตีเส้นจราจร รับติดตั้งงานระบบกันซึม รับทากันซึมดาดฟ้า ฝ้าเมทัลชีท รับติดตั้งหลังคาเมทัลชีท และหลังคาpolycarbonateราคาถูก เป็นบริษัทที่ได้มาตรฐานสูง  และมีการันตีรองรับ SGS มีทั้ง GMP ,  ISO และ HACCP  ซึ่งเขารับประกันงาน  มีบริการทั้งก่อนและหลังการขาย ดำเนินงานโดยทีมงานมืออาชีพทุกฝ่าย ที่มีประสบการณ์มายาวนาน และบริการมาแล้วทั่วประเทศ 

3d rendering empty room with white wall and floor

เมื่อพูดถึงหลังคาและแผ่นโพลีคาร์บอเนต บางสถานที่ก็นิยมนำไปใช้เป็นแผ่นโพลีคาร์บอเนตกั้นห้อง หรือใช้ในการทำโรงเรือนเพาะต้นไม้ ยิ่งช่วงโควิดระบาด เกิดกระแสการเพาะต้นไม้ขาย สร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำให้กับผู้เพาะต้นไม้ จนต้องสร้างโรงเรือนต้นไม้ โดยการขึ้นโครงเสาง่ายๆและใช้หลังคาโปร่งแสงโพลีคาร์บอเนตหรือแผ่นโพลีคาร์บอเนตใสราคาที่ไม่แพงเพื่อทำแบบโรงเรือนเปิด ทำให้มีแสงแดดเข้าสู่ภายในเรือนแต่ไม่แรงจนเกินไป พอเหมาะต่อการเจริญเติบโตของกล้าไม้ได้ดี  

 

แต่ไม่ว่าจะเป็นระบบโรงงาน สำนักงาน ครัวเรือน ที่สนใจในเรื่องปรับปรุงซ่อมแซมหรือเปลี่ยนพื้น หรือมีรอยรั่วรอยซึมในตัวอาคาร ต้องการทำระบบกันซึม การจะทำเองไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งถ้าเป็นบริเวณที่มีเนื้อที่กว้างยิ่งควรใช้บริการบริษัทหรือช่างที่มีประสบการณ์ตรง แต่การจะต้องเลือกบริษัทที่ดูน่าเชื่อถือ จะต้องมีการรองรับมาตรฐานโรงงานอย่าง ISO มีผลงานการันตี อย่าเลือกเพียงเพราะราคาถูก หรือเรียกใช้บริการช่างที่ไม่สามารถตรวจสอบระบบได้ เพราะอาจเสี่ยงในการทิ้งงาน งานไม่มีคุณภาพ หลอกคิดค่าบริการสูงแต่ใช้เกรดวัสดุต่ำ เชื่อว่าไม่มีใครอยากสูญเงินเปล่า หรือเสียเงินซ้ำซ้อนเพราะการซ่อมงานทีหลัง และมานั่งเจ็บใจเข้าทำนองที่ว่า เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย 

 

สถานการณ์โควิดระบาดหนักรอบ3 แบบนี้ ข่าวที่ได้รับรู้ในแต่ละวัน ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน ยิ่งตรวจก็ยิ่งเจอ คนที่ติด Covid-19 แต่ไม่มีอาการก็มีมากขึ้น ไม่รู้ว่าตัวเราเองติดเชื้อหรือยัง แต่จะให้ไปที่จุดตรวจโควิดแต่ละที่ก็คนเยอะเหลือเกิน กลัวจะไปตรวจแล้วเสี่ยงติดโควิดกลับมาแทน แต่ถ้าไม่ตรวจก็ไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อแล้วหรือยัง จะตรวจเองก็ตรวจไม่ได้อีก

ตั้งแต่โควิดระบาดมารอบแรกๆ สิ่งที่เราเรียกร้องกันมาตลอดอีกหนึ่งสิ่ง นอกจากวัคซีนดีๆแล้ว ก็คือ การได้ชุดตรวจหาเชื้อโควิดกันเองที่บ้าน อย่างที่หลายๆประเทศเขาแจกจ่ายประชาชนในประเทศ แม้จะรอกันมาจนครบวาระได้ 1 ปีกว่าๆ จนในที่สุด ทางการไทยก็ปลดล็อคให้เราได้ใช้ชุดตรวจเชื้อCovid-19 ได้แล้ว นั่นคือชุดตรวจ Rapid Antigen Test แล้วเจ้าชุดตรวจที่ว่านี้คืออะไร ต้องใช้แบบไหน จะได้ผลอย่างไร หากผลออกมาว่าติดเชื้อ ต้องทำยังไงต่อไป

 

Rapid Antigen Test คือ ชุดตรวจหาเชื้อโควิดที่ให้ผลตรวจได้อย่างรวดเร็ว โดย Rapid Test จะมีอยู่ 2 แบบ ได้แก่ … 

  1. ตรวจหาเชื้อ (Antigen) โดยเก็บตัวอย่างจากทางจมูกหรือคอ ซึ่งต้องรับเชื้อมาแล้ว 5-14 วัน จึงจะได้ผลแม่นยำ ตอนนี้มียี่ห้อชุดตรวจ  Rapid Antigen Test ที่ขึ้นทะเบียนกับ อย.แล้ว 24 ยี่ห้อ โดยราคาRapid Antigen Test คาดว่าน่าจะประมาณ 300-400 บาท
  2. ตรวจหาภูมิคุ้มกัน (Antibody) โดยการเก็บตัวอย่างจากการเจาะเลือด ซึ่งจะตรวจพบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อในวันที่10 เป็นต้นไป จนกระทั่งหายป่วยแล้ว

 

ขณะนี้ชุดตรวจที่กระทรวงสาธารณสุขอนุมัติให้ใช้ตรวจเองตามบ้านได้คือ Rapid Antigen Test ชุดตรวจหา Antigen ส่วนที่เป็นชุดตรวจหา Antibody หรือภูมิคุ้มกัน จะเปิดให้ทดสอบและใช้ได้ตามโรงพยาบาล

ก่อนใช้ชุดตรวจ Rapid Antigen Test ต้องทำอย่างไรบ้าง 

บริการสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (NHS) ได้มีคำแนะนำข้อควรรู้ก่อนใช้ตรวจหาเชื้อด้วย Rapid Antigen Test ดังต่อไปนี้ 

 

  • งดอาหารและน้ำก่อนทำการตรวจอย่างน้อย 30 นาที 
  • หากมีเลือดกำเดาไหลไปก่อนนี้ใน 24 ชม. ให้รอก่อน หรืออาจตรวจจากรูจมูกข้างที่ไม่มีเลือดกำเดา 
  • หากมีการเจาะจมูก ให้ทำการตรวจข้างที่ไม่ได้เจาะ แต่ถ้าเจาะทั้ง 2 ข้าง ให้ถอดห่วงจมูกข้างที่ต้องการจะตรวจออกก่อน 
  • ชุดตรวจใช้ได้แค่ครั้งเดียวต่อหนึ่งคน 
  • กรณีที่ทำการตรวจทางคอไม่ได้ เช่น อาจมีการเจาะคอ ให้ตรวจทางจมูกแทน 

ชุดตรวจ Rapid Antigen Test มีอะไรบ้าง 

อ้างอิงจากการแถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2564 ได้ระบุไว้ว่า ในชุดตรวจ Rapid Antigen Test จะต้องมีสิ่งต่อไปนี้ 

  • ตลับทดสอบ
  • ก้านสำลีสำหรับ swab
  • หลอดใส่น้ำยาสกัด 
  • ฝาหลอดหยด
  • เอกสารกำกับชุดตรวจ

 

วิธีใช้ Rapid Antigen Test 

  • ทำความสะอาดพื้นผิวที่จะวางชุดตรวจให้สะอาด ควรใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อด้วย 
  • ล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดหรือใช้เจลล้างมือ เพื่อรักษาความสะอาดของมือที่จะหยิบจับอะไร 
  • วิธีเก็บตัวอย่าง ให้ทำตามคำแนะนำที่มากับชุดตรวจอย่างเคร่งครัด โดยแต่ละชุดจะมีรายละเอียดแตกต่างกันไป  เช่น การเก็บตัวอย่างจากการแหย่จมูก แหย่จมูกถึงคอหอย หรือเก็บตัวอย่างจากการเข้าทางปากถึงคอหอย เป็นต้น 
  • เมื่อเสร็จสิ้นการเก็บตัวอย่าง ให้เตรียมอุปกรณ์ต่อไปตามคู่มือการใช้งาน
  • นำก้านสำลีมาหมุนใส่หลอดที่มีสารละลายตรวจหาเชื้อ โดยหมุนวนอย่างน้อย 5 ครั้ง หรือประมาณ15 วินาที แล้วบีบสำลีให้แห้งผ่านหลอด โดยห้ามไม่ให้มือสัมผัสกับก้านสำลีหรือสารที่เก็บเชื้อ
  • นำก้านสำลีทิ้งใส่ซีล และหยดสารละลายลงในแท่นตรวจตามจำนวนหยดที่ชุดตรวจกำหนดไว้แล้วรอผลประมาณ 15-30 นาที 

วิธีอ่านค่าผลตรวจ

หลังจากรอประมาณ 30 นาที ให้อ่านค่าผลตรวจ โดยอักษร C หมายถึง แถบควบคุม และตัวอักษร T หมายถึง ทดสอบ มีวิธีการอ่านผลตรวจดังนี้

 

  • หากมีเพียงขีดเดียวตรงตัวอักษร C หมายถึงผลตรวจเป็นลบ คือไม่ติดเชื้อ
  • หากมี 2 ขีดตรงตัวอักษร C และ T หมายถึงผลตรวจเป็นบวก คือติดเชื้อ
  • หากไม่มีขีดที่ตัว C แต่มีตรงที่แค่ตัว T หรือไม่มีขีดเลย นั่นเป็นผลตรวจที่ใช้ไม่ได้ ต้องทำการตรวจหาเชื้อใหม่อีกครั้ง ซึ่งต้องทำตามคำแนะนำในคู่มืออย่างเคร่งครัด 

 

หากผลตรวจพบว่าติดเชื้อ ควรทำอย่างไร

  • ติดต่อแจ้งหน่วยใกล้บ้านทันที 
  • ให้คนที่อยู่ใกล้ชิดทำการตรวจหาเชื้อ
  • แยกตัวจากผู้อื่นเพื่อทำการกักตัว
  • ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกัน
  • แยกการใช้ห้องน้ำในกรณีอยู่บ้านร่วมกับคนอื่น 
  • สวมหน้ากากอนามัยอยู่เสมอ ยกเว้นกรณีที่อยู่ลำพัง
  • เลี่ยงการสัมผัสสัตว์เลี้ยง 
  • หากมีอาการหายใจไม่สะดวก หายใจติดขัด ให้รีบทำการติดต่อขอรับการรักษา 
  • กรณีไม่ติดเชื้อแต่เป็นผู้มีความเสี่ยงสูง ควรทดสอบอีกครั้งใน 3-5 วัน และทำการแยกกักตัวจากผู้อื่น และถ้ามีอาการคล้ายจะติดโควิด ให้ทำการทดสอบอีกครั้ง 

วิธีทิ้งชุดตรวจ Rapid Antigen Test 

เมื่อเสร็จสิ้นการใช้ชุดตรวจแล้ว ควรแยกทิ้งจากขยะทั่วไปและติดสัญลักษณ์หรือเขียนกำกับเพื่อให้รู้ว่าเป็ฯขยะอันตราย ขยะติดเชื้อ หรือใส่ถุงขยะสีแดงหรือถุงสำหรับขยะติดเชื้อ เพื่อเพิ่มความระวังให้กับพนักงานเก็บขยะ และป้องกันเชื้อฟุ้งกระจายและแพร่สู่ผู้อื่น 

 

ทีนี้ก็พอได้รู้กันไปแล้วว่า Rapid Antigen Test คืออะไร และต้องใช้อย่างไร จะได้ลดความแออัดและความเสี่ยงในการไปที่จุดตรวจ สำหรับใครที่ได้ใช้ชุดตรวจนี้กันไปบ้างแล้ว ก็หวังว่าให้ผลออกมาเป็นลบกันทุกคนนะคะ แต่ถ้าพลาดติดเชื้อไปแล้ว ขอให้รักษาจิดใจไว้ก่อนพร้อมๆกับการรักษากาย เพราะความเครียดมีผลในการไปกดภูมิในร่างกายได้ อาจทำให้ทรุดได้ง่าย ดูแลทั้งใจและกายตัวเองให้อย่างเต็มที่ที่สุด เราจะต้องผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้ 

 

คุณรู้จักไฟเบอร์กลาสไหม แล้ว โพลิเอทิลีนล่ะคืออะไร บางคนอาจจะรู้ ยิ่งถ้าผู้ที่ต้องทำงานการผลิตในด้านต่างๆ เกี่ยวกับพวกพลาสติกทั้งโดยตรงหรือเกี่ยวข้องก็ตาม ก็ไม่แปลกใจแปลกหูคำเหล่านี้แน่นอน แล้วคนทั่วๆไปจะรู้บ้างไหมนะ ว่าเจ้า2สิ่งนี้ อยู่รอบตัวเราในชีวิตประจำวันมากๆ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุอุปกรณ์ เครื่องใช้ในบ้าน ในสำนักงาน การขนส่ง ฯลฯ แล้วไฟเบอร์กลาสกับโพลีเอทิลีน คืออะไร นำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้างจนทำให้เป็นที่นิยม 

 

ไฟเบอร์กลาสคืออะไร

ไฟเบอร์กลาส ถ้าจะเรียกเต็มๆก็คือ Fiber Reinforced Plastic (FRP) บางคนอาจรู้จักไฟเบอร์กลาสว่าเป็นพลาสติกเสริมแรง หรือจริงๆแล้วก็คือ “เส้นใยแก้ว” ที่ผลิตจากแก้วเป็นตัวหลัก อาจมีการเติมกรดและสารเติมแต่งอื่นๆ ถูกหลอมในเตาที่มีความร้อนสูงแล้วถูกยืดผ่านรูขนาดเล็กให้เกิดเส้นใย มีน้ำหนักเบากว่าโลหะ ซึ่งจะมี3แบบ 

 

  • แบบผืนผ้า มักจะใช้เป็นวัสดุขึ้นรูปโครงสร้างผสมกับเรซิ่นหรือพอลิเมอร์  
  • แบบเส้นด้าย จะมีขนาดเล็กเหมือนเส้นด้าย เอาไว้เป็นตัวตั้งต้นในการผลิต 
  • ฉนวนใยแก้ว ไว้ใช้เป็นฉนวนกันความร้อน  

 

คุณสมบัติของไฟเบอร์กลาส คือ มีน้ำหนักเบา แข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อนสารเคมี ไม่เป็นสนิม ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า ทนต่อสภาพอากาศ ไฟเบอร์กลาสมีอายุการใช้งานยาวนาน และยังติดตั้งง่าย

โพลีเอทิลีนคืออะไร

โพลีเอทิลีน (PE) เป็นโพลิเมอร์ที่จัดอยู่ในเทอร์โมพลาสติก หรือ เรซิ่นไฟเบอร์ คือพลาสติกสังเคราะห์แบบเหลว ที่เป็นพลาสติกใช้ทำไฟเบอร์กลาสและถูกนำไปใช้ในงานอุตสาหกรรมมากที่สุด โพลิเอทิลีน หรือ ที่เราเรียกกันง่ายๆว่า PE จะมีความยืดหยุ่น มีสีขาวขุ่น เหนียว ไม่มีกลิ่น จะใช้ในกลุ่มงานขึ้นรูปในการผลิตไฟเบอร์กลาส งานหล่อ และงานเคลือบ ผลิตสิ่งของที่ใช้ในประจำวัน

คุณสมบัติของโพลิเอทิลีนคือ เป็นฉนวนกันไฟฟ้าได้ดี ทนต่อแรงกระแทก มีความเหนียวยืดหยุ่นดี ทนต่อการกัดกร่อนของสารเคมี มักจะถูกนำไปทำถุงหูหิ้ว ลังเบียร์ ลังใส่ผลไม้ ชิ้นส่วนแบตเตอรี่ ขวดใส่น้ำ  ถังใส่น้ำ-ใส่สารเคมี  ภาชนะต่างๆ ฯลฯ 

 

แล้วไฟเบอร์กลาสกับโพลิเอทิลีนนำไปทำอะไรได้บ้าง…เริ่มจากสิ่งใกล้ตัวเราก่อนเลย

ถังน้ำ / ถังเก็บน้ำ เพื่อรองรับไว้ใช้ทั้งอุปโภคและบริโภค ซึ่งเมื่อก่อนการประปายังไม่มีหรือบางแหล่งชุมชนที่ประปายังเข้าไม่ถึง ก็จะมีการใช้โอ่งเพื่อรองรับน้ำฝนหรือน้ำธรรมชาติไว้ แต่เนื่องจากโอ่งหรือตุ่มน้ำมักจะเกิดตะไคร่น้ำได้ มีสิ่งสกปรกตกลงไปหรือแม้แต่ยุงมักลงไปวางไข่ จึงมีการพัฒนาในการออกแบบวัสดุขึ้นมาทดแทนเพื่อแก้ปัญหาต่างๆเหล่านั้น 

ถังน้ำที่ใช้เก็บน้ำไว้สำรองยามฉุกเฉินเวลาที่น้ำประปาไม่ไหล และยังช่วยระบบปั๊มน้ำให้ทำงานได้ดีในส่วนของอาคารตึกแถวที่มีผู้อาศัยจำนวนมาก เช่น อพาร์ทเม้นต์ หรือ สำนักงาน เป็นต้น  แต่ด้วยถังน้ำสมัยนี้มีหลากหลายให้เลือกเหลือเกิน การเลือกให้เหมาะกับการใช้งานและให้คุ้มค่าจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม  

 

เราต้องรู้ก่อนว่า ถังเก็บน้ำมีกี่แบบ…ถังเก็บน้ำหรือบางคนก็เรียกว่าแทงก์น้ำนั้นมี 2 แบบ ได้แก่ 

1.ถังเก็บน้ำบนดิน มีส่วนดีในเรื่องของการดูแลรักษาและทำความสะอาดง่าย โยกย้ายสะดวก แต่จะเหมาะกับบ้านหรืออาคารที่มีพื้นที่พอสมควร สำหรับการติดตั้งถังเก็บน้ำบนดินจะมีทั้งแบบติดตั้งชั้นล่างและติดตั้งแบบชั้นบนสุดหรือชั้นดาดฟ้าของอาคาร โดยการติดตั้งแบบชั้นล่างนั้นจะเหมาะกับบ้านที่ไม่เกิน3ชั้น เพราะถ้าสูงกว่านั้นแรงปั๊มน้ำอาจสูบไม่ถึง ดังนั้นการติดตั้งบนดาดฟ้าหรือชั้นบนสุดจะเหมาะกับบ้านหรืออาคารที่มี4ชั้นขึ้นไป ถังแบบนี้จะมีหลายประเภทได้แก่

  • ถังเก็บน้ำสเตนเลส มีความสวยเงางาม แข็งแรง ทำความสะอาดง่าย น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก แต่เหมาะกับการเก็บน้ำประปาหรือน้ำสะอาด ไม่เหมาะกับการเก็บน้ำบาดาล น้ำกร่อย หรือ น้ำที่มีความเป็นกรด-ด่างสูง เพราะถังน้ำประเภทนี้ไม่ทนต่อการกัดกร่อน มักจะเกิดสนิมตามรอยข้อต่อต่างๆของถัง และ มีราคาค่อนข้างสูงกว่าถังน้ำประเภทอื่น

 

  • ถังเก็บน้ำพลาสติกทั่วไป ถังประเภทนี้บรรจุน้ำได้หลายชนิด มีให้เลือกหลากหลาย แต่เพราะไม่ใช่ชนิดทึบแสงทำให้แสงสามารถลอดผ่านและเกิดตะไคร่น้ำ รวมไปถึงแบคทีเรียต่างๆได้ จึงทำให้ไม่เหมาะกับการใช้งานแบบถาวร ยิ่งถ้านำไปใช้กลางแจ้งนานๆ อายุการใช้งานก็จะสั้นลง 

 

  • ถังเก็บน้ำโพลีเมอร์ เป็นถังแบบทึบแสง ป้องกันยูวี สีไม่ซีดจาง ทำให้น้ำมีความสะอาดปลอดภัยจากตะไคร่น้ำและแบคทีเรีย มีอายุการใช้งานยาวนาน ทนทาน ไม่แตกหักหรือเปราะง่าย ได้รับความนิยมสำหรับครัวเรือน ราคาไม่สูงมากถ้าเทียบกับถังน้ำสเตนเลส แต่ต้องเลือกซื้อกับบริษัทที่เชื่อถือได้และเลือกที่มีการรองรับมาตรฐาน มอก. ไม่เช่นนั้นอาจได้สินค้าที่ไม่มีคุณภาพ  มีการหลุดร่อนของสีหรือสารปรอทปนเปื้อนได้

 

  • ถังเก็บน้ำไฟเบอร์กลาส สามารถเก็บกักน้ำได้ปริมาณมากทั้งแบบติดตั้งบนบกและติดตั้งแบบฝังดินโดยไม่ต้องมีบ่อปูน คุณสมบัติถังไฟเบอร์กลาสมีความแข็งแรงทนทาน รองรับแรงอัดได้ดี สามารถบรรจุน้ำได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม-น้ำใช้ น้ำบาดาล ตลอดไปจนถึงสารเคมีต่างๆ  ปลอดสนิม ไม่เกิดตะไคร่น้ำเพราะเป็นแบบทึบแสง ซ่อมแซมได้ และมีราคาถูกกว่าสเตนเลส

 

  • ถังเก็บน้ำคอนกรีตเสริมเหล็ก หรืออาจเรียกว่า ถังคอนกรีต เหมาะกับบ้านหรืออาคารที่มีบริเวณกว้างขวาง เนื่องจากมีขนาดที่ไหญ่พอสมควร มีความแข็งแรงมาก ติดตั้งได้ทั้งบนบกและฝังดิน ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากในระหว่างทำการติดตั้ง และต้องทำระบบกันน้ำซึมรองรับเพื่อไม่ให้เกิดน้ำรั่วซึมในภายหลัง 

ถังเก็บน้ำใต้ติน 

ถังเก็บน้ำใต้ดินทำจากวัสดุที่สะอาด รองรับแรงกระแทกได้ดี ถังเก็บน้ำประเภทนี้เหมาะกับบ้านหรืออาคารที่มีพื้นที่น้อย หรือต้องการประหยัดพื้นที่ในการทำประโยชน์ด้านอื่นๆ แต่มีข้อเสียคือ มีรูปทรงที่จำกัด จึงต้องเตรียมโครงสร้างบริเวณใต้ดินไว้รองรับ ต้องมีความแข็งแรงมากพอ เพื่อกันไม่ให้เกิดการทรุดได้ ต้องวางแผนและออกแบบที่ตั้งให้เรียบร้อยก่อน เพราะเมื่อติดตั้งเสร็จแล้วจะไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากระหว่างทำการติดตั้ง จึงใช้เวลานานกว่าถังเก็บน้ำบนดิน และดูแลรักษาหรือทำการซ่อมแซมยาก

 

ถังเก็บน้ำบนดินหรือฝังดินดี

กรณีบ้านเดี่ยวที่มีบริเวณมากพอ ก็อาจจัดตั้งถังเก็บน้ำวางบนดิน เพื่อที่จะได้ทำความสะอาดได้ง่าย และสามารถเห็นรอยรั่วหรือน้ำซึมในกรณีที่มีการชำรุด จะได้ซ่อมแซมทันที แต่ถ้าเป็นตึกแถวอาคารที่มีบริเวณจำกัด อาจเลือกเป็นถังเก็บน้ำฝังดินแทน 

 

ปัญหาหลักๆของการติดตั้งถังเก็บน้ำ 

1.ความยุ่งยากในการติดตั้ง(ต้องติดตั้งปั๊ม น้ำ-เปลืองพื้นที่-เกะกะ-สกปรก)

2.เสียงดังรบกวน(เวลาที่ปั๊มทำงาน)

3.พื้นที่ลุ่ม มีน้ำขัง หรือเคยถูกน้ำท่วม (ต้องการต่อขาปั๊ม)

 

ปัญหาเหล่านี้มักจะเจอกันแทบทุกบ้าน ดังนั้นต้องวางแผนและขอคำแนะนำวิศวกรผู้ออกแบบหรือพนักงานที่เราติดต่อซื้อขายให้ดีก่อนทำการจัดตั้งจะดีกว่า จะได้ไม่มีปัญหากวนใจทีหลัง

หลักเกณฑ์การเลือกซื้อต้องมีอะไรบ้าง 

1.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(มอก.)รับรองสินค้าว่ามีความปลอดภัยต่อการใช้งาน 

2.ระยะเวลาการรับประกันสินค้า(warranty) 

3.มีขนาดที่เหมาะสมกับจำนวนผู้ใช้งาน

4.วัสดุตัวถังมีความแข็งแรงทนทานไร้รอยรั่ว

5.ขนาดและประเภทของถังเหมาะสมกับพื้นที่ที่จะทำการติดตั้ง

6.บริษัทหรือผู้จำหน่ายมีความน่าเชื่อถือได้

7.มีบริการและรับประกันก่อน-หลังการขาย มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาและช่างซ่อมบำรุง

เดี๋ยวนี้มีร้านมากมายที่จำหน่ายถังเก็บน้ำไฟเบอร์กลาสมือสองราคาถูก หรือจะติดต่อโรงงานผลิตถังไฟเบอร์กลาสโดยตรง ก็อาจจะได้ถังน้ำมือสองที่ยังมีคุณภาพดีแทบจะเทียบเท่าถังใหม่ได้เลย

https://safefiberglasstank.com  

ถังเก็บน้ำเสมือนเป็นส่วนหน้าบ้าน เราไปกันต่อในส่วนหลังบ้าน ที่มีความจำเป็นไม่น้อย

หน้ากันเลย นั่นคือ “ห้องน้ำ-ห้องส้วม” แต่ที่จะเขียนถึงนี้ มันต่อจากห้องส้วมต่างหาก นั่นคือ “บ่อบำบัดน้ำเสีย” 

 

เมื่อก่อนเราจะคุ้นเคยกับคำว่า”บ่อเกรอะ-บ่อซึม” ที่นำถังซีเมนต์เรียงซ้อนกัน โดยมักจะขุดและทำบ่อไว้ใกล้ๆห้องน้ำหรือหลังบ้าน แต่ระบบนี้มักจะเกิดปัญหาที่ตามมาคือ ของเสียในบ่อเกรอะมักย่อยสลายไม่หมด ทำให้ส้วมตัน น้ำล้น หรือมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ จึงได้มีการพัฒนาผลิตถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูป เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ และก็ได้รับการตอบรับที่ดีจนเป็นที่นิยมแพร่หลาย 

 

ถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูป

ถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูปจะมี 2 ประเภท ได้แก่ แบบเติมอากาศ และ แบบไร้อากาศ  โดยรูปลักษณ์ภายนอกของถัง 2 ประเภทนี้ แทบจะเหมือนกันทุกประการ หรือกระทั่งระบบภายในถังก็เป็นการนำระบบบ่อเกรอะและบ่อซึมมารวมกันไว้ในถังเดียว คือ มีระบบแยกเป็น 2 ช่อง โดยช่องแรกจะเป็นช่องเกรอะไว้แยกตะกอนและย่อยสลายสิ่งปฏิกูล ส่วนช่องที่2 จะเป็นช่องเติมอากาศที่ใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์บำบัด และการใช้เครื่องเติมอากาศ ทำให้น้ำที่ผ่านกระบวนการมีความสะอาดเพียงพอที่จะปล่อยลงสู่ท่อสาธารณะ 

ความแตกต่างระหว่างถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูปแบบเติมอากาศและไร้อากาศ คือ ถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศนั้นจะมีท่อเติมอากาศในตัวถังเข้ามาเพื่อให้จุลินทรีย์ทำหน้าที่ย่อยสลายของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมไปถึงค่า BOD (ค่าวัดความเน่าเสียของน้ำก่อนปล่อยลงสู่แหล่งธรรมชาติ) ที่มีค่าต่ำไม่เกิน 20ml / liter ทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าแบบไร้อากาศ แต่มีราคาที่สูงกว่า เพราะในส่วนของค่าการเติมอากาศและค่าไฟฟ้า

 

เคยเจอปัญหาท่อตันบ่อย ส้วมเต็มไว จะแก้ยังไงกับกลิ่นห้องน้ำใช่ไหม…

เรื่องกลิ่นเจอกันได้บ่อยและไม่ไหวจะรับ แต่แก้ได้ด้วยการลดหรือเลิกใช้น้ำยาล้างห้องน้ำที่มีสารเคมีเข้มข้นเกินไปราดลงโถสุขภัณฑ์ ลองเปลี่ยนมาใช้น้ำส้มสายชูผสมเบกกิ้งโซดาในสัดส่วน 2:1 ทำความสะอาดโถส้วมแทน  เพราะความเป็นกรดด่างที่สูงเกินไปอาจไปทำลายจุลินทรีย์บางตัวที่ช่วยสลายของเสียและขจัดกลิ่น ส่วนในกรณีที่กดน้ำไม่ลงรวมไปถึงส้วมตันบ่อยนั้น อาจเป็นไปได้ว่า การติดตั้งที่ผิดวิธี, บริเวณใกล้บ้านมีน้ำท่วมขัง หรือ การเลือกขนาดถังเล็กกว่าจำนวนคนใช้จริงในบ้านก็เป็นอีกสาเหตุได้เช่นกัน ดังนั้น การเลือกขนาดถังบำบัดน้ำเสียก็มีความสำคัญ แก้ไขได้ด้วยการเพิ่มจำนวนถัง หรือ ก่อนซื้อและทำการติดตั้ง ควรคำนวณจำนวนสมาชิกในบ้านหรือผู้อาศัยกับขนาดของถังโดยการสอบถามผู้ผลิตหรือร้านจัดจำหน่ายที่ไปซื้อให้เรียบร้อยเสียก่อน

 

**การเลือกซื้อถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูปก่อนทำการติดตั้งก็มีวิธีคล้ายๆกับการเลือกซื้อถังเก็บน้ำ เพียงแต่ให้ดูที่มีการรับรองมาตรฐาน ISO (องค์การระหว่างประเทศว่า

ด้วยการมาตรฐานสำหรับอุตสาหกรรม)

ห้องน้ำเคลื่อนที่ / ห้องส้วมเคลื่อนที่ 

เคยไปงานเทศกาลประจำปีของจังหวัดหนึ่ง ตอนเที่ยวก็เพลิดเพลินดี แต่ตอนที่อยากทำธุระนี่สิ ห้องน้ำเจ้ากรรมมีไม่พอ ต่อแถวกันยาวเป็นกิโลฯ แทบจะได้โรคท่อปัสสาวะอักเสบกลับบ้านเลยทีเดียว นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ต้องเขียนถึงห้องน้ำเคลื่อนที่

ห้องน้ำสำเร็จรูป ที่ผลิตขึ้นมาก็เพื่อแก้ปัญหาการหาเข้าห้องน้ำยากและมีห้องน้ำไม่พอสำหรับผู้ใช้ จนกระทั่งมีผู้ผลิตห้องส้วมเคลื่อนที่ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ และมีการตอบรับที่ดีมาก

ห้องน้ำเคลื่อนที่ในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งที่เป็นรถห้องสุขาเคลื่อนที่ ห้องน้ำตู้คอนเทนเนอร์ ห้องน้ำโพลีเอทิลีน ห้องน้ำไฟเบอร์กลาส  ถือว่าเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้ไม่น้อย ดูได้จากสิงคโปร์ ที่มีการขยายธุรกิจห้องน้ำเคลื่อนที่อย่างจริงจัง เนื่องจากเป็นประเทศที่เป็นเกาะและมีพื้นที่จำกัด 

 

ข้อดีและประโยชน์ของส้วมเคลื่อนที่มีอะไรบ้าง

  1. แก้ปัญหาเรื่องห้องน้ำไม่เพียงพอ
  2. เคลื่อนย้ายได้สะดวก
  3. ถอดประกอบติดตั้งง่ายและเก็บง่ายเมื่อต้องการเลิกใช้
  4. มีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพอากาศ
  5. มีอายุการใช้งานได้ยาวนาน
  6. เหมาะกับการจัดงานต่างๆทุกรูปแบบ งานบุญ งานราชการ งานคอนเสิร์ต ฯลฯ
  7. ติดตั้งได้ทั้งชั่วคราวและถาวร
  8. ใช้ในยามฉุกเฉินหรือเกิดอุบัติภัยได้ เช่น น้ำท่วม

เรือท้องแบนและเรือกู้ภัย 

เหตุการณ์น้ำท่วมที่เราดูในข่าวบ่อยๆจะเห็นว่ามีหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะหน่วยราชการ หน่วยกู้ภัย หรือ ผู้มีจิตอาสา จะนำของกินของใช้ทั้งอุปโภคและบริโภคไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย แน่นอนว่าการที่จะเข้าไปช่วยเหลือได้นั้นไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยพาหนะทางบกเช่นรถยนต์ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้เรือ 

 

“เรือท้องแบน หรือ “เรือกู้ภัย” ส่วนใหญ่ที่เราเห็นๆใช้กันทั่วไปนั้น จะผลิตด้วยไฟเบอร์กลาส เพราะจะให้ความแข็งแรงมีความทนทานสูง ทนต่อการกัดกร่อน และไม่นำไฟฟ้า เพราะการเข้าไปยังสถานที่ประสบภัยบางแห่งอาจมีการรั่วไหลของไฟฟ้า และน้ำก็เป็นสื่อกลางอย่างดี เรือที่เป็นพาหนะจึงต้องมีความปลอดภัยสูงต่อผู้โดยสารด้วย

อ่างปลา / บ่อปลา / บ่อเพาะพันธ์สัตว์น้ำ / สระน้ำ / สระว่ายน้ำ 

มีหลายๆบ้าน หรือ แม้แต่ร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก หลายๆแห่ง นิยมเลี้ยงปลาเพื่อความสวยงามและสร้างความเพลิดเพลินใจให้กับผู้พักอาศัย อ่างปลาที่นิยมจะมีหลากหลายแบบหลายชนิด ทั้งแบบกลมแบบเหลี่ยม แบบที่ทำจากปูน ก่อจากอิฐ แต่ถ้าถามผู้เลี้ยงปลาส่วนใหญ่จะแนะนำใช้อ่างหรือบ่อไฟเบอร์กลาส (FRP) เพราะให้พื้นผิวเรียบ น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวก มีหลายขนาดให้เลือก ป้องกันการขีดข่วนได้ดี มีความทนทาน ลดการเกิดตะไคร่น้ำ ไร้สนิมและคราบต่างๆ อีกทั้งมีอายุการใช้งานได้นานกว่าอ่างชนิดอื่นๆ เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบเลี้ยงปลาหรือเพาะพันธ์สัตว์น้ำขาย ซึ่งบางบ้านก็นำไปดัดแปลงเป็นสระว่ายน้ำเป็นที่ถูกอกถูกใจสมาชิกหลายๆคนในบ้าน

 

“สภาวะเรือนกระจก” เกิดจากหลายๆสาเหตุ แต่ใครรู้บ้างว่า หนึ่งในนั้นมาจาก ก๊าซมีเทน(CH4) และ ก๊าซไข่เน่า ทำไมถึงได้กล่าวเรื่องนี้ขึ้นมา นั้นเพราะกำลังจะพูดถึงถัง”กำจัดก๊าซมีเทน” นั่นเอง

 

ก๊าซมีเทน และ ก๊าซไข่เน่า หากนำไปผ่านกระบวนการบำบัดให้ดี สามารถนำไปผลิตเป็นพลังงานที่ให้ความร้อนและผลิตไฟฟ้าได้ เหตุนี้ตามโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ตลอดไปจนถึงภาคเกษตรกรรม ที่มีส่วนในการทำให้เกิดก๊าซเหล่านี้ จำเป็นต้องหันมาให้ความใส่ใจในการกำจัดหรือบำบัดเพื่อนำไปแปรสภาพเป็นพลังงานทดแทน 

ถังกำจัดก๊าซมีเทน / ถังบำบัดก๊าซ

ถังกำจัดก๊าซมีเทน (Biogas Scrubber Tank) เป็นถังที่ผลิตมาเพื่อกำจัดและบำบัดก๊าซชีวภาพให้บริสุทธิ์ก่อนจะปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศหรือบำบัดให้เป็นก๊าซที่นำไปใช้เป็นพลังงานทดแทนต่อไป ถ้าพูดถึงก๊าซชีวภาพ หรือ ไบโอก๊าซ เป็น ก๊าซที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากการย่อยสลายของสารอินทรีย์ ไม่ว่าจะเป็นเศษอาหาร สิ่งปฏิกูลต่างๆ ซากขยะ ฯลฯ โดยก๊าซชีวภาพมีองค์ประกอบก๊าซหลายชนิดด้วยกัน แต่เราจะมาพูดถึงเพียง 2 ชนิดต่อไปนี้

 

  • ก๊าซมีเทน ถือได้ว่าเป็นอันดับ 2 รองจากคาร์บอนไดออกไซด์ ที่มีผลกระทบกับสภาวะเรือนกระจก ซึ่งเกิดทั้งจากธรรมชาติและฝีมือมนุษย์ ก๊าซมีเทนเป็นก๊าซที่ไม่มีสีไม่มีกลิ่นและยังสามารถติดไฟง่าย เป็นก๊าซที่ถูกนำไปเป็นแหล่งให้พลังงานความร้อนตั้งแต่อดีต และปัจจุบันได้นำมาผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าให้คนทั่วโลก แต่ขณะเดียวกัน ก๊าซมีเทนก็มีอันตรายอยู่ดี จึงต้องมีความระมัดระวังในการใช้งานทั้งในเรื่องของการเกิดอัคคีภัย และหากได้สูดดมเข้าไปในจำนวนมากก็เป็นอันตรายถึงชีวิต  
  • ก๊าซไข่เน่า หรือทางวิทยาศาสตร์เรียกว่าไฮโดรเจนซัลไฟด์(H2S)เป็นก๊าซที่ไม่มีสีแต่มีกลิ่นเหม็นเหมือนไข่เน่า ติดไฟง่ายและเป็นอันตรายต่อชีวิตหากมีการสูดดมไปในปริมาณเข้มข้นเพียงในไม่กี่วินาทีได้เช่นเดียวกับก๊าซมีเทน เหมือนที่เราเคยได้ยินข่าวคนงานตกไปในถังบำบัดของเสียที่ห้างสรรพสินค้าแล้วเสียชีวิต แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถนำไปปรับใช้เป็นพลังงานได้ด้วย เช่น ในฟาร์มหมูก็มักจะมีก๊าซไข่เน่าและปศุสัตว์ก็นำไปแปลสภาพไว้ใช้เป็นก๊าซหุงต้ม

 

ส่วนประกอบเครื่องบิน

ไฟเบอร์กลาสยังถูกนำไปเป็นส่วนประกอบตัวเครื่องและส่วนปีกเครื่องบินบางรุ่น อย่างเช่นเครื่องบินของอังกฤษ หรือรุ่น AD-1 ที่ถูกออกแบบโดยนักขับเครื่องบินชาวอเมริกัน Leander Rutan หรือ เบิร์ท โดยเขานำวัสดุที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงเช่นพลาสติกเสริมไฟเบอร์กลาสมาใช้ในการออกแบบตัวเครื่องและส่วนปีกเครื่องบิน ทำให้มีโครงสร้างที่เบากว่าเครื่องบินทั่วไปและเป็นแบบปีกหมุนจนสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเขาและสร้างกำไรมหาศาล และยังเป็นต้นแบบเครื่องบินเจ็ทอีกหลายรุ่นต่อมา 

 

ด้านโลจิสติกส์

ไปรษณีย์ไทยได้มีการนำกล่องไฟเบอร์กลาสมาใช้บรรจุพัสดุ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความปลอดภัยของพัสดุก่อนที่ลูกค้าจะได้รับ และอีกหลายๆบริษัทที่ทำการขนส่ง ก็มีการนำกล่องไฟเบอร์กลาสมาใช้กันมากขึ้น เพื่อยกระดับระบบขนส่ง 

ระบบนาซ่า(NASA) ดูได้จากชุดนักบินอวกาศที่เดินทางไปสำรวจนอกโลกจะมีการนำไฟเบอร์กลาสเป็นส่วนประกอบที่เป้นักบินอวกาศด้านหลังด้วย ทำให้เสริมความแข็งแรงและความปลอดภัยของชุดมากขึ้น และการนำไปประกอบในชิ้นส่วนต่างๆของยานและอุปกรณ์การบินสำรวจของนาซ่า

ที่จริงแล้วยังมีวัสดุอุปกรณ์อีกมากที่ผลิตจากไฟเบอร์กลาส ไม่ว่าจะเป็นหลังคารถ เรือน้ำ ท่อร้อยสายไฟ ฯลฯ ตลอดไปถึงเป็นวัสดุทดแทนทั้งในด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม แต่อะไรบ้างนั้น ถ้าจะให้พูดถึงทั้งหมดก็คงได้ลากยาวจนหาบทจบคอนเทนต์นี้ไม่ได้สักทีแน่ๆ เท่านี้ก็คงจะพอช่วยให้หลายๆท่านหายข้องใจและพอจะทราบบ้างแล้วว่า ทำไมไฟเบอร์กลาสและโพลีเอทิลีนถึงถูกนำไปใช้ในวงกว้างและเป็นที่นิยมในปัจจุบัน